ตุ่มเหมือนยุงกัดแต่ไม่ใช่ยุงกัด คัน เกิดจากอะไร?
ตุ่มที่มีลักษณะเหมือนยุงกัดแต่ไม่ได้เกิดจากยุงกัด และทำให้เกิดอาการคัน อาจเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ ได้ดังนี้ค่ะ:
-
โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis)
- เกิดจากปฏิกิริยาภูมิแพ้ของร่างกาย ส่งผลให้มีผื่นแดง คัน หรือแห้งลอก
- มักเกิดตามข้อพับ เช่น ข้อศอก หลังเข่า หรือบริเวณที่เสียดสีกับเสื้อผ้า
-
อาการแพ้สัมผัส (Contact Dermatitis)
- ผิวหนังอาจมีปฏิกิริยาต่อสารเคมี เช่น น้ำยาซักผ้า โลชั่น หรือแม้แต่อาหารบางชนิด
- ตุ่มอาจเกิดบริเวณที่สัมผัสกับสารนั้น ๆ
-
การติดเชื้อรา หรือยีสต์ที่ผิวหนัง
- มักเกิดในบริเวณที่อับชื้น เช่น ซอกนิ้ว เท้า รักแร้
- ตุ่มคันจากเชื้อราอาจมีวงขอบลักษณะเด่นเฉพาะ
-
แมลงกัดต่อยชนิดอื่น
- เช่น มด ตัวไร หรือไรฝุ่น ซึ่งกัดแล้วเกิดรอยคล้ายยุงกัดแต่คงอยู่นานกว่า
- อาจมีร่องรอยจุดตรงกลางหรือบวมแดงร่วม
-
ผื่นลมพิษ (Urticaria)
- เกิดจากการตอบสนองของระบบภูมิแพ้หรือความไวต่ออาหาร ยา หรือมลภาวะ
- ผื่นที่ขึ้นจะมีรูปร่างเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว
คำแนะนำ:
- หากตุ่มคันไม่หายภายใน 1-2 วัน หรือเพิ่มจำนวนมากขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อตรวจวินิจฉัยค่ะ
- พยายามหลีกเลี่ยงการเกาเพราะอาจทำให้ผิวหนังอักเสบหรือเกิดแผลติดเชื้อ
- ใช้ยาทาหรือยารับประทานที่เหมาะสม (เช่น ยาแก้แพ้) หลังจากได้รับการยืนยันสาเหตุจากแพทย์ค่ะ
หากมีรายละเอียดเพิ่มเติม เช่น ลักษณะของตุ่มที่เห็นชัดเจนหรือรูปแบบอื่น ๆ เพิ่มเติม สามารถแจ้งมาเพื่อวินิจฉัยให้แม่นยำขึ้นได้ค่ะ