ปวดท้องประจําเดือน เกิดจากอะไรและรักษายังไง?
การปวดท้องประจำเดือน (หรือที่เรียกอีกอย่างว่า dysmenorrhea) เกิดจากสภาวะที่มดลูกหดตัวเพื่อลอกเยื่อบุภายในมดลูกออกมาระหว่างช่วงที่มีประจำเดือนค่ะ สาเหตุของอาการปวดสามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก:
-
ปวดท้องประจำเดือนแบบปฐมภูมิ (Primary Dysmenorrhea):
- เกิดจากการสร้างสารเคมีชื่อว่า prostaglandins ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้มดลูกบีบตัวมากเกินไปค่ะ
- มักพบในผู้หญิงที่ยังไม่มีลูก และอาการจะลดลงเมื่อมีอายุมากขึ้น หรือหลังมีลูกค่ะ
-
ปวดท้องประจำเดือนแบบทุติยภูมิ (Secondary Dysmenorrhea):
- มีสาเหตุมาจากโรคหรือความผิดปกติของอวัยวะสืบพันธุ์ เช่น เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis), เนื้องอกในมดลูก (Fibroids), หรือการติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน (Pelvic Inflammatory Disease) ค่ะ
- มักพบในผู้หญิงที่มีอาการปวดมากขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น หรือในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ค่ะ
วิธีการรักษาและบรรเทาอาการปวดประจำเดือนมีดังนี้:
-
การดูแลตัวเองที่บ้าน:
- ประคบร้อนบริเวณท้องน้อยเพื่อช่วยลดการหดตัวของมดลูกค่ะ
- ออกกำลังกายเบา ๆ เช่น โยคะ หรือเดิน เพื่อช่วยปลดปล่อยสารเอ็นดอร์ฟินค่ะ
- ลดการดื่มคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ เพราะอาจกระตุ้นอาการได้ค่ะ
-
การใช้ยา:
- ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs เช่น ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) หรือเมเฟนามิค แอซิด (Mefenamic Acid)
- หากมีอาการปวดมากหรือเรื้อรัง อาจต้องปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาการใช้ยาคุมกำเนิดค่ะ
-
การปรึกษาแพทย์:
- หากมีอาการปวดรุนแรงที่ไม่บรรเทาด้วยยา หรือมีอาการผิดปกติ เช่น ประจำเดือนมามากเกินไป หรือมีไข้ร่วมด้วย ควรรีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรักษาเพิ่มเติมค่ะ
ถ้าคุณมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับสุขภาพหรืออาการที่คล้ายคลึงกันนี้ อย่าลังเลที่จะสอบถามเพิ่มเติมนะคะ!