สาเหตุของอาการปวดท้องบิดตรงกลาง และถ่ายเหลว

ปวดท้องบิด ตรงกลาง เป็นๆหายๆ ถ่ายเหลว เกิดจากอะไร?

อาการปวดท้องบิดตรงกลาง เป็นๆ หายๆ และมีการถ่ายเหลว อาจเกิดจากหลายสาเหตุ โดยสามารถพิจารณาได้ดังนี้ค่ะ:

  1. อาหารเป็นพิษ

    • อาการปวดท้องและถ่ายเหลวอาจเกิดจากการรับประทานอาหารที่มีเชื้อโรค หรือสารพิษเจือปน เช่น แบคทีเรียไวรัส หรือสารเคมี
    • มักเกิดพร้อมกับอาการอื่น เช่น คลื่นไส้อาเจียน เป็นไข้ หรือมีอาการปวดเกร็งที่ท้องร่วมด้วย
  2. โรคกระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบ (Acute Gastroenteritis)

    • เกิดจากการติดเชื้อ เช่น ไวรัส หรือแบคทีเรียในลำไส้
    • อาจมีน้ำในอุจจาระและมีกลิ่นเหม็นมากผิดปกติร่วมด้วย
  3. ลำไส้แปรปรวน (Irritable Bowel Syndrome - IBS)

    • เป็นภาวะที่ลำไส้ทำงานผิดปกติ อาจมีอาการปวดบิด และการขับถ่ายผิดปกติ เช่น ท้องผูกสลับท้องเสีย
    • สาเหตุไม่แน่ชัด แต่มักเกี่ยวข้องกับความเครียด อาหารที่กระตุ้น หรือการเพิ่มขึ้นของแก๊สในลำไส้
  4. อาการแพ้อาหารหรือไม่ทนต่ออาหารบางชนิด (Food Intolerance)

    • การแพ้อาหารบางประเภทอาจทำให้ปวดเกร็งท้องและถ่ายเหลว เช่น แพ้นมวัว (Lactose Intolerance)

ควรรักษาอาการเบื้องต้นโดย:

  • ดื่มน้ำเกลือแร่ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำหากถ่ายเหลวบ่อย
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่อาจทำให้อาการแย่ลง เช่น นม หรืออาหารมัน

หากอาการไม่ดีขึ้น หรือมีอาการรุนแรง เช่น ถ่ายปนเลือด ปวดท้องเฉียบพลันมาก ร่างกายอ่อนเพลีย ควรไปพบแพทย์ทันทีค่ะ เพื่อการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสมค่ะ