ปัญหาประจำเดือนผิดปกติหลังทานยาปรับฮอร์โมน

เป็นถุงน้ำในรังไขาหลายใบ
หมอให้กินยาปรับฮอร์โมน 7วัน วันล่ะ 2เม็ด
กินครบ 7วันแล้วหลังจากนั้น 3วัน ประจำเดือนมามาเยอะและปวดท้อง ปวดหลัง ปกติเป็น7วัน
แต่เป็นเกิน7วัน แบบนี้ปกติไหมคะ

โดยปกติแล้วการกินยาปรับฮอร์โมนสามารถมีผลข้างเคียงที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในรอบประจำเดือนได้ค่ะ การที่ประจำเดือนมามากกว่าปกติและมีอาการปวดหลังหรือปวดท้องอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น:

  1. ผลข้างเคียงจากยาปรับฮอร์โมน:

    • ยาอาจส่งผลต่อเยื่อบุโพรงมดลูก ทำให้ปริมาณเลือดที่ออกมาในช่วงประจำเดือนเพิ่มขึ้น
    • การปรับระดับฮอร์โมนในร่างกายอาจทำให้ร่างกายต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว
  2. ผลต่อโรคหรือภาวะที่มีอยู่เดิม:

    • หากมีภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ (PCOS) อยู่ก่อนแล้ว การเปลี่ยนแปลงในระดับฮอร์โมนอาจส่งผลกับรอบประจำเดือนและลักษณะการมีประจำเดือนได้
    • หากเยื่อบุโพรงมดลูกหนาเกินไปเพราะการสะสมของเลือดมาเป็นเวลานาน ประจำเดือนที่มาจะมีปริมาณมากขึ้น
  3. รอบประจำเดือนที่เลยเวลา:

    • เมื่อประจำเดือนมานานเกิน 7 วัน อาจเกิดจากภาวะเลือดออกผิดปกติที่ควรได้รับการตรวจเพิ่มเติม
    • อาการปวดหลังและปวดท้องที่รุนแรงหรือไม่บรรเทาควรระวังและปรึกษาแพทย์

สิ่งที่ควรทำในตอนนี้คือ:

  • สังเกตอาการต่อไป: หากประจำเดือนยังไม่หยุดหรือมีเลือดออกมากจนทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย ควรรีบปรึกษาแพทย์ค่ะ
  • ปรึกษาแพทย์อีกครั้ง: เพื่อยืนยันว่าการตอบสนองต่อยาเป็นไปตามปกติ หรือมีภาวะอื่นๆ ที่จำเป็นต้องได้รับการรักษา
  • พักผ่อนให้เพียงพอ: ลดกิจกรรมที่อาจกระตุ้นกล้ามเนื้อในช่วงอาการปวด

แนะนำให้ติดต่อแพทย์ที่ดูแลรักษา เพื่อประเมินว่าจำเป็นต้องทำการตรวจเพิ่มเติมหรือไม่ค่ะ