ประจำเดือนมามากผิดปกติและอันตรายหรือไม่

ประจำเดือนมามากผิดปกติเลยค่ะ ต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 1-2 ชั่วโมงเลย แบบนี้เป็นอันตรายไหมคะ?

การที่ประจำเดือนมามากจนต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 1-2 ชั่วโมงนั้นอาจเป็นสัญญาณที่แสดงถึงภาวะผิดปกติบางอย่างในร่างกายค่ะ ปกติแล้วผู้หญิงจะเสียเลือดในปริมาณประมาณ 30-40 มิลลิลิตรในช่วงประจำเดือน หากคุณต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยมากหรือต้องใส่ผ้าอนามัยสองชั้นเพื่อป้องกันการรั่ว อาจเข้าข่ายภาวะที่เรียกว่า “Menorrhagia” หรือการมีประจำเดือนมามากผิดปกติค่ะ

สาเหตุที่อาจเป็นไปได้

  1. ฮอร์โมนไม่สมดุล: ความไม่สมดุลของฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนสามารถทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนากว่าปกติ ซึ่งอาจทำให้มีประจำเดือนมากค่ะ
  2. เนื้องอกหรือซีสต์ในมดลูก (Myomas/Fibroids): เนื้องอกหรือซีสต์ที่ไม่ใช่มะเร็งอาจส่งผลต่อปริมาณเลือดค่ะ
  3. ความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด: เช่น ความผิดปกติในกลไกการแข็งตัวของเลือดหรือการใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด
  4. เยื่อบุโพรงมดลูกผิดปกติ (Endometriosis/Hyperplasia): อาจมีผลให้เลือดออกอย่างรุนแรงระหว่างรอบเดือนค่ะ
  5. ภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ: เช่น การติดเชื้อในโพรงมดลูกหรือในอุ้งเชิงกราน

ควรทำอย่างไร

  1. สังเกตอาการเพิ่มเติม: หากมีอาการแน่นหน้าอก อ่อนเพลีย ซีด หรือเวียนศีรษะ นี่อาจเป็นสัญญาณของการเสียเลือดมากจนเกิดภาวะโลหิตจางค่ะ
  2. ปรึกษาแพทย์: แนะนำให้เข้าพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุอย่างละเอียด อาจต้องตรวจอัลตราซาวด์หรือเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อค่ะ
  3. รักษาตามสาเหตุ: หากพบสาเหตุ เช่น ซีสต์ในมดลูก แพทย์จะแนะนำวิธีรักษาที่เหมาะสม เช่น การใช้ยา การผ่าตัด หรือวิธีอื่นๆ

อย่าปล่อยให้อาการเป็นนานเกินไปโดยไม่ได้ตรวจร่างกายนะคะ เพราะหากเกิดภาวะแทรกซ้อนหรือเสียเลือดมากเกินไป อาจส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวค่ะ