หลังจากนั่งไขว่ห้างนานๆ จะรู้สึกชาที่ขาแล้วก็เท้าเลยครับ แบบนี้เป็นอันตรายต่อเส้นประสาทไหม?
การรู้สึกชาที่ขาและเท้าหลังจากนั่งไขว่ห้างเป็นเวลานานนั้นเกิดจากการที่น้ำหนักตัวกดทับเส้นประสาทหรือหลอดเลือดที่ขา ทำให้การไหลเวียนของเลือดลดลง หรือเส้นประสาทถูกกดจนเกิดความรู้สึกชาชั่วคราวค่ะ อาการนี้มักไม่เป็นอันตรายร้ายแรงหากเกิดในช่วงเวลาสั้น ๆ และสามารถหายเองได้เมื่อเปลี่ยนอิริยาบถหรือยืดกล้ามเนื้อ แต่ถ้าเกิดอาการบ่อยครั้งหรือนานขึ้น อาจมีความเสี่ยงต่อสุขภาพได้ ควรพิจารณาดังนี้ค่ะ:
-
สาเหตุที่พบบ่อยของอาการชา:
- การกดทับเส้นประสาทที่เรียกว่า Peroneal Nerve ซึ่งอยู่บริเวณเข่าด้านนอก โดยเฉพาะตอนนั่งไขว่ห้าง
- การลดการไหลเวียนของเลือดไปยังบริเวณขาและเท้าขณะนั่งในท่าเดิมนาน ๆ
- หากคุณมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ที่เกิดอาการชาคล้ายกันได้ คือ Peripheral Neuropathy (โรคปลายประสาทเสื่อม)
-
แนวทางการลดความเสี่ยง:
- หลีกเลี่ยงการนั่งไขว่ห้างนานเกิน 20-30 นาที หรือเปลี่ยนอิริยาบถบ่อย ๆ ค่ะ
- ลองการยืดกล้ามเนื้อหรือการบริหารขาเบา ๆ เช่น หมุนข้อเท้า หรือยืดขาให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น
- หากต้องนั่งทำงานในท่าที่ขาโดนกด อาจใช้หมอนรองใต้ขาหรือเก้าอี้ที่มีที่พักเท้าช่วยลดแรงกด
-
ข้อควรระวังและการพบแพทย์:
- หากคุณเริ่มมีอาการชาที่ไม่หายไปหลังเปลี่ยนท่า หรือนานกว่า 1-2 ชั่วโมง ควรเข้ารับคำปรึกษาแพทย์
- อาการชาที่เริ่มเกิดร่วมกับอาการปวดหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง อาจเป็นสัญญาณของปัญหาเส้นประสาทหรือโรคอื่น เช่น หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
ดังนั้น อาการชาหลังนั่งไขว่ห้างส่วนใหญ่ไม่เป็นอันตราย แต่ขอแนะนำให้สังเกตร่างกายอย่างใกล้ชิดและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามคำแนะนำเพื่อป้องกันปัญหาเพิ่มเติมค่ะ หากอาการรบกวนในชีวิตประจำวันหรือสงสัยในสาเหตุ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อการตรวจวินิจฉัยค่ะ