เลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์เป็นอันตรายหรือไม่

มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ค่ะ แบบนี้เป็นเรื่องอันตรายไหมคะ ควรไปหาหมอหรือเปล่า?

การมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์อาจเกิดจากหลายสาเหตุค่ะ ซึ่งบางสาเหตุอาจเกี่ยวข้องกับปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงหรือบางครั้งอาจไม่สำคัญมากก็ได้ แต่การตรวจสอบโดยแพทย์จะให้คำตอบที่ถูกต้องและปลอดภัยที่สุดค่ะ สาเหตุที่เป็นไปได้มีดังนี้:

  1. การบาดเจ็บ: การขาดการหล่อลื่นในระหว่างเพศสัมพันธ์อาจทำให้ช่องคลอดหรือปากมดลูกของคุณได้รับบาดเจ็บจนเกิดเลือดออกค่ะ
  2. การติดเชื้อ: การติดเชื้อในช่องคลอดหรืออุ้งเชิงกราน เช่น การติดเชื้อแบคทีเรีย หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STIs) เช่น หนองในหรือหนองในเทียม อาจทำให้เกิดเลือดออกได้ค่ะ
  3. ภาวะเกี่ยวกับฮอร์โมน: ถ้าคุณกำลังใช้ยาคุมกำเนิด หรือมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน อาจส่งผลต่อผนังมดลูกและทำให้เกิดเลือดออกค่ะ
  4. โรคที่เกี่ยวกับปากมดลูก: เช่น ภาวะเซลล์ผิดปกติที่ปากมดลูก (Cervical dysplasia) หรือแม้กระทั่งมะเร็งปากมดลูกในบางกรณี
  5. ติ่งเนื้อปากมดลูกหรือติ่งเนื้อในมดลูก: ทั้งสองอย่างนี้อาจทำให้เกิดเลือดออกได้เมื่อมีการสัมผัสระหว่างเพศสัมพันธ์ค่ะ

ควรทำอย่างไร?

  • หากเลือดที่ออกมีปริมาณมาก หรือเกิดขึ้นซ้ำ ๆ บ่อยครั้ง ควรรีบปรึกษาแพทย์ค่ะ
  • ถ้ามีอาการอื่นร่วม เช่น ปวดท้องน้อย มีตกขาวผิดปกติ หรือมีไข้ แนะนำให้ไปพบแพทย์ทันทีค่ะ
  • แพทย์อาจแนะนำให้ตรวจภายใน การตรวจเซลล์ปากมดลูก (Pap smear) หรือตรวจอัลตราซาวด์เพื่อหาสาเหตุเพิ่มเติมค่ะ

เพื่อความปลอดภัยและการดูแลสุขภาพที่เหมาะสม หากยังคงกังวล การติดต่อพูดคุยกับแพทย์จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดค่ะ