มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ค่ะ แบบนี้เป็นเรื่องอันตรายไหมคะ ควรไปหาหมอหรือเปล่า?
การมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์อาจเกิดจากหลายสาเหตุค่ะ ซึ่งบางสาเหตุอาจเกี่ยวข้องกับปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงหรือบางครั้งอาจไม่สำคัญมากก็ได้ แต่การตรวจสอบโดยแพทย์จะให้คำตอบที่ถูกต้องและปลอดภัยที่สุดค่ะ สาเหตุที่เป็นไปได้มีดังนี้:
- การบาดเจ็บ: การขาดการหล่อลื่นในระหว่างเพศสัมพันธ์อาจทำให้ช่องคลอดหรือปากมดลูกของคุณได้รับบาดเจ็บจนเกิดเลือดออกค่ะ
- การติดเชื้อ: การติดเชื้อในช่องคลอดหรืออุ้งเชิงกราน เช่น การติดเชื้อแบคทีเรีย หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STIs) เช่น หนองในหรือหนองในเทียม อาจทำให้เกิดเลือดออกได้ค่ะ
- ภาวะเกี่ยวกับฮอร์โมน: ถ้าคุณกำลังใช้ยาคุมกำเนิด หรือมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน อาจส่งผลต่อผนังมดลูกและทำให้เกิดเลือดออกค่ะ
- โรคที่เกี่ยวกับปากมดลูก: เช่น ภาวะเซลล์ผิดปกติที่ปากมดลูก (Cervical dysplasia) หรือแม้กระทั่งมะเร็งปากมดลูกในบางกรณี
- ติ่งเนื้อปากมดลูกหรือติ่งเนื้อในมดลูก: ทั้งสองอย่างนี้อาจทำให้เกิดเลือดออกได้เมื่อมีการสัมผัสระหว่างเพศสัมพันธ์ค่ะ
ควรทำอย่างไร?
- หากเลือดที่ออกมีปริมาณมาก หรือเกิดขึ้นซ้ำ ๆ บ่อยครั้ง ควรรีบปรึกษาแพทย์ค่ะ
- ถ้ามีอาการอื่นร่วม เช่น ปวดท้องน้อย มีตกขาวผิดปกติ หรือมีไข้ แนะนำให้ไปพบแพทย์ทันทีค่ะ
- แพทย์อาจแนะนำให้ตรวจภายใน การตรวจเซลล์ปากมดลูก (Pap smear) หรือตรวจอัลตราซาวด์เพื่อหาสาเหตุเพิ่มเติมค่ะ
เพื่อความปลอดภัยและการดูแลสุขภาพที่เหมาะสม หากยังคงกังวล การติดต่อพูดคุยกับแพทย์จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดค่ะ