การวินิจฉัยภาวะขาดธาตุเหล็กทำอย่างไร?
การวินิจฉัยภาวะขาดธาตุเหล็ก (Iron deficiency) สามารถทำได้โดยการประเมินทั้งจากอาการของผู้ป่วยและการตรวจทางห้องปฏิบัติการค่ะ ซึ่งแพทย์มักจะพิจารณาร่วมกันหลายปัจจัยเพื่อให้ได้การวินิจฉัยที่แม่นยำ
1. การซักประวัติและตรวจร่างกาย
- อาการที่พบได้บ่อย เช่น อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย หน้ามืด เวียนศีรษะ ใจสั่น
- ผิวซีด เยื่อบุตาซีด เล็บเปราะหรือเว้ารูปช้อน (koilonychia) และมุมปากแตก
- สอบถามประวัติการรับประทานอาหาร การเสียเลือดเรื้อรัง (เช่น ประจำเดือนออกมาก เลือดออกในทางเดินอาหาร) หรือโรคประจำตัวอื่นๆ
2. การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
- Complete Blood Count (CBC) – มักพบระดับฮีโมโกลบิน (Hb) ต่ำ, ค่าความเข้มข้นเม็ดเลือดแดงเฉลี่ย (MCV) ต่ำ, ค่าความเข้มข้นฮีโมโกลบินเฉลี่ย (MCH) ต่ำ
- Serum ferritin – เป็นตัวชี้วัดปริมาณธาตุเหล็กสะสมในร่างกาย ตัวนี้จะต่ำลงชัดเจนในภาวะขาดธาตุเหล็ก
- Serum iron และ Total Iron Binding Capacity (TIBC) – มักพบค่า iron ต่ำ แต่ TIBC สูงขึ้น
- Transferrin saturation – ลดลงในผู้ป่วยขาดธาตุเหล็ก
3. การหาสาเหตุของการขาดธาตุเหล็ก
- แพทย์อาจสั่งตรวจเพิ่มเติม เช่น ส่องกล้องทางเดินอาหาร (gastroscopy/colonoscopy) หากสงสัยมีเลือดออกภายใน
- ตรวจพยาธิในลำไส้หรือโรคระบบทางเดินอาหารที่รบกวนการดูดซึม เช่น celiac disease
- ในผู้หญิง อาจต้องซักประวัติประจำเดือนหรือทำอัลตราซาวนด์เพื่อหาความผิดปกติของมดลูกและรังไข่
ถ้าคุณสนใจ ฉันสามารถสรุปเป็น แผนผังขั้นตอนการวินิจฉัยภาวะขาดธาตุเหล็ก เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นนะคะ คุณต้องการให้ทำไหมคะ?