การวินิจฉัยโรคข้อรูมาตอยด์ทำอย่างไร?
การวินิจฉัยโรคข้อรูมาตอยด์ (Rheumatoid Arthritis) มักต้องอาศัยทั้งการประเมินอาการทางคลินิกและการตรวจทางห้องปฏิบัติการควบคู่กันค่ะ เพื่อให้แพทย์สามารถยืนยันได้อย่างถูกต้อง เนื่องจากโรคนี้มีอาการคล้ายกับโรคข้ออื่นๆ ได้ค่ะ
ขั้นตอนหลักในการวินิจฉัยมีดังนี้
- การซักประวัติและตรวจร่างกาย
- อาการปวด บวม และตึงแข็งของข้อ โดยเฉพาะข้อเล็กๆ เช่น ข้อมือ ข้อมือ ข้อนิ้ว
- ความสมมาตรของตำแหน่งที่เกิดอาการ (ปกติจะเป็นทั้งสองข้าง)
- ระยะเวลาที่ข้อแข็งในตอนเช้า (มัก > 30 นาที)
- การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
- ตรวจหาสารบ่งชี้ เช่น rheumatoid factor (RF) และ anti-CCP antibody ซึ่งพบได้บ่อยในผู้ป่วย
- ตรวจค่า ESR และ CRP เพื่อดูระดับการอักเสบในร่างกาย
- การตรวจภาพรังสีและอัลตราซาวด์ข้อ
- เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงในข้อ เช่น การกร่อนของกระดูกหรือการสูญเสียพื้นที่ในข้อ
- อัลตราซาวด์สามารถช่วยเห็นการอักเสบของเยื่อบุข้อได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น
โดยทั่วไป แพทย์จะใช้เกณฑ์การวินิจฉัยจาก American College of Rheumatology (ACR) และ European League Against Rheumatism (EULAR) ซึ่งรวมคะแนนจากอาการ การตรวจเลือด และผลรังสีเพื่อประเมินค่ะ การวินิจฉัยที่แม่นยำจะช่วยให้สามารถเริ่มการรักษาได้เร็ว ลดความเสียหายของข้อ และคงคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยให้นานที่สุดค่ะ