ผมรู้สึกสับสนทางเพศครับ
ผมอายุ 20 ปี เป็นเพศชายชอบผู้หญิงปกติ แต่ช่วง2เดือนที่ผ่านมานี้เป็นอะไรก็ไม่รู้จู่ๆก็มีความคิดเเปลกเข้ามาว่าถ้าเป็นเกย์จะเป็นยังไง หลังจากนั้นก็เครียดกังวลอาการเหมือนย้ำคิดย้ำทำ เเละรู้สึกเเปลกๆกับร่างกายผู้ชาย ช่วงที่เครียดนี้ก็มีความรู่สึกทางเพศกับผู้หญิงน้อยลง ผมลองนั่งดูตัวเองในใจว่ายังชอบผู้หญิงมั้ย คำตอบบอกว่าใช่ครับ แต่กับผู้ชายมันไม่ใช่ เเละจะเห็นเหมือนภาพหลอนรึติดตาผมไม่ทราบได้ ชอบมีภาพผู้ชายเปลื่อยทั้งที่ผมไม่ได้คิดถึงมันผมทรมานกับมันมากรู้สึกทำไมต้องเกิดขึ้นกับผม ผมไปหาจิตเเพทย์มาเเล้วก็เหมือนเค้าแก้ปัญหาไม่ได้ตามที่ผมต้องการ ผมอยากให้มีคนเข้าใจ เเละชี้เเนะผม ว่าต้องคิดยังไง ต้องทำกิจกรรมแบบไหน ถึงจะหายกังวลกับที่เป็นอยู่ เเละกับมาเป็นปกติเหมือนเมือ 2 เดือนก่อน ตอนนี้มันกระทบชีวิตประจำวันผมมากผมไม่สามารถทำอะไรได้เหมือนเดิม เพราะมีเจ้าความคิดนี้ค่อยรบกวน(เพิ่มเติมครับชอบมีคนล้อผมว่าผมเหมือนเกย์ ไม่รู้มันมีส่วนที่ทำให้มันซึบซับกับคำพูดเเล้วกังวลรึเปล่า ผมอยากเป็นผู้ชายปกติ ตอนนี้เสียความมั่นใจมาก)
สวัสดีค่ะ จากที่คุณบรรยายมา ฟังดูเหมือนคุณกำลังรับมือกับอาการย้ำคิดย้ำทำ (OCD) และความเครียดจากการกังวลเรื่องความล้มเหลวทางเพศ หนึ่งในทางเลือกในการจัดการกับปัญหานี้คือการเข้ารับคำปรึกษาจากนักจิตวิทยาหรือบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งสามารถให้การสนับสนุนและคำแนะนำในระยะยาว
คำแนะนำเบื้องต้นเกี่ยวกับการจัดการความกังวล:
- การทำโยคะและเมดิเทชั่น: เพื่อช่วยให้จิตใจสงบลงและลดความเครียด การฝึกโยคะหรือเมดิเทชั่นช่วยให้คุณมีเวลาทบทวนตัวเองในช่วงเวลาที่สงบ
- การเรียนรู้เกี่ยวกับตนเอง: เขียนบันทึกความรู้สึกและประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ช่วยให้คุณเข้าใจตนเองมากขึ้นและเห็นแนวโน้มของความคิดแบบซ้ำ ๆ
- สร้างสรรค์กิจกรรมที่ชอบ: หันกลับไปทำกิจกรรมที่คุณเคยชอบหรือสนใจ เช่น ออกกำลังกาย ฟังเพลง อ่านหนังสือ หรือพบปะเพื่อน ๆ การทำเช่นนี้จะเป็นการสลายความคิดเชิงลบและกระตุ้นการทำงานของสมองเป็นอย่างดี
หมั่นตรวจสอบความเชื่อและปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น
- หากการที่คุณรู้สึกว่าผู้อื่นล้อเลียนเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุการเครียด พยายามพูดคุยกับเพื่อนหรือคนในครอบครัว เข้าใจการรับฟังและให้คำแนะนำที่ดี
- การให้กำลังใจตนเอง: ให้ความสำคัญกับสิ่งที่คุณทำได้ดี แล้วให้เกียรติตนเองในความสามารถและความสำเร็จที่ผ่านมา
สุดท้าย สิ่งสำคัญคือการดูแลสุขภาพจิตอย่างต่อเนื่อง หากคุณยังรู้สึกไม่ดีขึ้น ควรปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตอีกครั้งเพื่อหาวิธีการช่วยเหลือที่เหมาะสม