หมอครับคือมีช่วงนึงผมเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบแล้วผมก็ช่วยตัวเองทุกวันขณะเป็นโรคหน่ะครับ แต่ผมก็กินยารักษาโรคกระเพาะปัสสาวะไปด้วย พอผมกินยาหมดชุดแล้วมันยังไม่หายเหมือนเพราะผมช่วยตัวเองไปด้วย แล้วมีอาการปวดอัณฑะเพิ่มมาด้วย จึงแจ้งแพทย์แล้วเพิ่มยามาครับ กินยาไปเกือบเดือน จนหายปัสสาวะบ่อย แต่ผมปวดอัณฑะข้างใดข้างหนึ่งหรือไม่ก็2ข้างบางครั้งจับตรงท่อที่อยู่ในอัณฑะแล้วรู้สึกเจ็บเลย แล้วก็ปวดเกร็งอวัยวะหลังช่วยตัวเองเสร็จหน่ะครับ ไม่ก็จะรู้สึกปวดๆข้างในท่อปัสสาวะ แล้วผมก็เสร็จกิจเร็วกว่าเมื่อก่อนหน่ะครับ ตอนเสร็จกิจก็รู้สึกเกร็งอวัยวะเพศมากจนรู้สึกได้เลยครับว่าเสร็จกินรู้สึกเกร็งอย่างเดียว ผมต้องทำไงดีครับ
จากที่คุณเล่ามา ดูเหมือนว่าคุณกำลังเผชิญกับสองปัญหาสุขภาพหลัก คือกระเพาะปัสสาวะอักเสบและปัญหาที่เกี่ยวข้องกับอัณฑะและระบบสืบพันธุ์ชาย อาการปวดอัณฑะและความเจ็บภายในท่อปัสสาวะหลังการช่วยตัวเองอาจเกิดจากหลายสาเหตุ แต่ที่พบบ่อยได้แก่:
- การติดเชื้อที่อัณฑะ (Epididymitis): การติดเชื้อที่ท่อหรือเนื้อเยื่อที่ล้อมรอบอัณฑะอาจทำให้เกิดอาการปวดได้ คุณควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจสอบและรับยาปฏิชีวนะแก้การติดเชื้อ
- การอักเสบที่ต่อมลูกหมาก (Prostatitis): การอักเสบหรือการติดเชื้อที่ต่อมลูกหมากสามารถเกิดขึ้นและทำให้เกิดอาการเหล่านี้ขึ้นได้ จำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยอย่างเจาะจงและรักษา
คุณควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เกิดความเจ็บหรืออาการอักเสบมากขึ้นในช่วงระยะเวลาการพักฟื้น เช่น การช่วยตัวเอง จากนั้นเข้าไปพบแพทย์เพื่อให้การตรวจและการรักษาครบถ้วนตามความเหมาะสม แพทย์อาจแนะนำวิธีการปฏิบัติตนเองเพิ่มเติม เช่น:
- การพักผ่อนให้พอเพียง
- การหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีน
- การดื่มน้ำมากๆเพื่อช่วยล้างแบคทีเรียออกจากระบบปัสสาวะ
สุดท้าย ควรติดตามอาการของคุณอย่างใกล้ชิดและแจ้งแพทย์หากมีการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ดีขึ้น เพื่อให้ได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องคะ