คุณแม่ของหนูท่านมีอาการชาที่ปลายลิ้นมาเป็นเวลา 2 เดือนแล้วค่ะ ท่านมีโรคประจำตัวคือ ความดันและไขมันสูง หนูกลัวว่าท่านจะเป็น stroke เพราะท่านมีโรคประจำตัวที่เสี่ยงต่อโรคนี้ หนูจึงพาท่านไปตรวจกับแพทย์ที่รพ. ระหว่างที่ตรวจคุณหมอถามว่าทานอาหารรสเผ็ดไหม คุณแม่ตอบว่าเผ็ดค่ะ เมื่อก่อนทานเผ็ด แต่ปัจจุบันค่อย ๆ ลดเผ็ดลงแล้วค่ะ คุณหมอจึงให้เหตุผลว่า การทานเผ็ดบ่อย ๆ จะทำให้ระบบประสาทที่ลิ้นถูกทำลาย และคุณหมอก็ให้ยามาทาที่ปลายลิ้น และให้วิตามินมาทาน และแนะนำให้ทานจืด ๆ พักผ่อนเยอะ ๆ แต่ทำไมคุณหมอไม่ตรวจมากกว่านี้ หรือ ถามมากกว่านี้ หนูอยากให้ละเอียดกว่านี้ หนูกับคุณแม่ก็กลับมาปฏิบัติตามคุณหมอแนะนำ แต่พอ 1 เดือนผ่านไป อาการคุณแม่ก็ยังมีอยู่ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ทั้งสิ้น หนูเลยพาไปตรวจที่คลินิกแถวบ้าน ลองเปลี่ยนหมอดูเผื่อจะได้เหตุผลมากกว่านี้ และคุณหมออีกท่านก็วินิจฉัยว่าทานรสเผ็ด พร้อมให้ยามาทาน เป็นกลุ่มวิตามินอีกเช่นเดียวกัน นี่ก็จะครบ 2 เดือนแล้ว แต่อาการก็ยังคงที่ หนูจึงอยากมาตั้งคำถามกับคุณหมอในที่นี้ คือ หนูกังวล และกลัวคุณแม่จะเป็นโรคstroke มากค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะ
เป็นเรื่องที่น่ากังวลและเข้าใจได้ว่าคุณแม่มีอาการชาที่ปลายลิ้นมานานถึง 2 เดือน โดยมีโรคประจำตัวอย่างความดันและไขมันสูง ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคสโตรค (stroke) เมื่อพิจารณาอาการและประวัติการมีโรคประจำตัว คุณหมอหลายท่านได้แนะนำให้ทานอาหารจืด ลดการทานเผ็ด รักษาด้วยยาทาและวิตามินเพื่อบรรเทาอาการ แต่ดูเหมือนว่าอาการยังไม่ดีขึ้นภายใน 2 เดือน
อาการชาที่ปลายลิ้นสามารถเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การทานอาหารรสเผ็ดเกินไป อาการแพ้ หรือการขาดวิตามินบางชนิด อีกทั้งยังอาจเกี่ยวข้องกับปัญหาเส้นประสาทหรือโรคอื่น ๆ โดยปกติแล้ว หากอาการยังไม่ดีขึ้นหลังจากทำตามที่แพทย์แนะนำ การตรวจเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุอื่นคือสิ่งที่ควรพิจารณา
เพื่อความสบายใจและการดูแลที่ละเอียดขึ้น คุณควรพาคุณแม่ไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยา (neurologist) เพื่อขอคำวินิจฉัยละเอียดและการตรวจที่เกี่ยวข้อง เช่น การทำ MRI หรือ CT scan เพื่อดูว่ามีปัญหาเกี่ยวกับเส้นประสาทหรือสมองหรือไม่ นอกจากนี้ การตรวจเลือดเพื่อตรวจวัดระดับวิตามินและสิ่งเจือปนอื่น ๆ ในเลือดก็อาจมีประโยชน์ด้วยค่ะ