การปวดเมื่อยแขน และข้อมือ เกี่ยวข้องกับพิษสุนัขบ้าหรือไม่ เคยโดนแมวกัดที่ข้อมือแต่ไม่ลึก เลือดออกซิบๆ แต่ได้รับการฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าแล้ว
อาการปวดเมื่อยแขนและข้อมือไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับพิษสุนัขบ้าเสมอไปค่ะ แต่ในกรณีของคุณที่เคยโดนแมวกัดและได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าแล้ว มีบางรายละเอียดที่สามารถวิเคราะห์เพิ่มเติมได้ดังนี้:
-
เกี่ยวกับการกัดและวัคซีนพิษสุนัขบ้า
- เมื่อคุณได้ฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าครบถ้วนแล้ว ความเสี่ยงที่จะเกิดพิษสุนัขบ้าจะลดลงจนเกือบไม่มีค่ะ
- อาการที่อาจแสดงถึงการติดเชื้อพิษสุนัขบ้า ได้แก่ ชา เจ็บแปลบที่บริเวณถูกกัด หรือมีอาการทางระบบประสาท เช่น กลัวน้ำ หรืออาการสั่นเป็นต้น อย่างไรก็ตาม อาการเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่แสดงออกด้วยอาการปวดเมื่อยแขนเพียงอย่างเดียวค่ะ
-
อาการปวดเมื่อยแขนและข้อมือ อาจเกี่ยวข้องกับสาเหตุอื่น
- ถ้าคุณใช้งานแขนหรือข้อมือบ่อย เช่น ยกของหนัก ทำงานที่ต้องใช้ข้อมือ หรือเล่นกีฬา อาการปวดเมื่อยอาจเป็นผลมาจากการใช้งานที่มากเกินไปค่ะ
- การปวดข้อมืออาจเกิดจากโรคหรือภาวะอื่น เช่น เอ็นอักเสบ (Tendonitis) หรือกลุ่มอาการโพรงฝ่ามือ (Carpal Tunnel Syndrome) ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับพิษสุนัขบ้าค่ะ
- อีกประเด็นที่ควรคำนึงถึงคือ การอักเสบในบริเวณที่คุณถูกแมวกัด ซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในท้องถิ่น แม้ว่าคุณจะฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าแล้ว ถ้ามีการบวม แดง ร้อน หรือมีหนอง แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยค่ะ
-
ข้อแนะนำในการดูแลตัวเอง
- พักแขนและข้อมือ หลีกเลี่ยงการใช้งานที่หนักเกินไปในช่วงนี้ค่ะ
- หากยังมีอาการปวดควรใช้น้ำแข็งประคบบริเวณที่ปวด หรือใช้ยาทาบรรเทาการอักเสบ
- แต่ถ้าคุณกังวลว่าอาการนี้อาจเกี่ยวข้องกับโรคพิษสุนัขบ้า หรือมีประวัติล่าสุดกับสัตว์กัด ควรปรึกษาแพทย์ทันทีเพื่อความแน่ใจค่ะ
หากอาการปวดเมื่อยแขนและข้อมือยังไม่ดีขึ้นหรือมีอาการแทรกซ้อน แนะนำให้พบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมนะคะ