ไข้เลือดออกและไข้หวัดธรรมดาเป็นโรคที่พบได้บ่อยและเป็นโรคที่มีอาการไข้คล้ายกันจนบางครั้งอาจทำให้หลายคนสับสน แต่ความจริงแล้วทั้ง 2 โรคนี้มี อาการ และการดูแลรักษาที่แตกต่างกัน ดังนั้น บทความนี้จึงจะมาให้ความรู้ว่าไข้เลือดออกต่างกับไข้หวัดธรรมดาอย่างไร? เพื่อให้สามารถรับมือและป้องกันได้อย่างถูกต้อง
ไข้เลือดออก (Dengue fever)
ไข้เลือดออก เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี (Dengue virus) ซึ่งมีทั้งหมด 4 สายพันธุ์ โดยมียุงลายเป็นพาหะนำโรค ไวรัสจะเข้าสู่ร่างกายผ่านการถูกยุงลายกัด โดนยุงลายวางไข่ในพื้นที่ที่มีน้ำขัง เช่น บริเวณบ้าน โรงเรียน หรือสถานที่ที่มีน้ำขังสะสม [1]
อาการของไข้เลือดออก [1]
- ไข้สูงเฉียบพลัน 38-41°C ติดต่อกัน 2-7 วัน
- ปวดศีรษะ
- ปวดกล้ามเนื้อ
- ปวดท้อง
- คลื่นไส้ อาเจียน
- เบื่ออาหาร
- จุดเลือดออกตามผิวหนัง หรือจ้ำเลือดตามแขนขา
- อาจมีเลือดออกตามไรฟัน
- อาจมีเลือดกำเดาไหล
วิธีการดูแลรักษาไข้เลือดออก [1,3]
ไข้เลือดออกไม่มีตัวยารักษาเฉพาะ โดยทั่วไปการดูแลรักษาไข้เลือดออกจะเน้นไปที่การบรรเทาอาการและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งมีวิธีการดูแลรักษา ดังนี้
- เมื่อมีไข้สูงควรเช็ดตัวด้วยอุณหภูมิห้องหรือน้ำอุ่น และรับประทานยาพาราเซตามอล ทุก 4-6 ชั่วโมง หลีกเลี่ยงยาแอสไพรินและไอบูโพรเฟน เพราะอาจทำให้เลือดออกง่ายขึ้น
- ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกาย การดื่มน้ำหรือดื่มเครื่องดื่มที่ให้สารน้ำ เช่น น้ำเปล่า, น้ำเกลือแร่, หรือเครื่องดื่มผลไม้ที่ไม่หวานจัด ช่วยป้องกันภาวะขาดน้ำที่เกิดจากการสูญเสียน้ำในร่างกายจากไข้สูงและเหงื่อออกมาก
- พักผ่อนมากๆ การพักผ่อนเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ป่วยไข้เลือดออก เพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้ดีขึ้น
- ควรรับประทานอาหารอ่อนและย่อยง่าย หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่มีสีดำ สีแดง และสีน้ำตาล เพื่อไม่ให้สับสนกับภาวะเลือดออกในทางเดินอาหาร
- ถ้าหากมีอาการรุนแรง เช่น ซึมลง อาเจียนบ่อย ปวดท้องรุนแรง หรือเลือดออกผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
วิธีป้องกันไข้เลือดออก [1,2]
- กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง เช่น ปิดฝาภาชนะใส่น้ำ เปลี่ยนน้ำในแจกัน และกำจัดน้ำขังรอบบ้าน
- ใช้ยาทากันยุง หรือสวมเสื้อผ้ามิดชิดเพื่อป้องกันยุงกัด
- ติดมุ้งกันยุง และใช้สเปรย์หรือเครื่องไล่ยุง เพื่อป้องกันยุงกัด
- หากมีการระบาด ควรฉีดพ่นหมอกควันกำจัดยุงลายในพื้นที่เสี่ยง
- การฉีดวัคซีนป้องกันไข้เลือดออก เพื่อป้องกันและลดความรุนแรงจากโรคไข้เลือดออก
ไข้หวัดธรรมดา (Common Cold)
ไข้หวัดธรรมดา เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนที่พบได้บ่อย โดยมีสาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัสหลายชนิด เช่น ไรโนไวรัส (Rhinovirus) หรือโคโรนาไวรัสที่ไม่รุนแรง การติดเชื้อเกิดขึ้นผ่านทางละอองฝอยจากการไอหรือจามของผู้ป่วย รวมถึงการสัมผัสพื้นผิวที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัส [4]
อาการของไข้หวัดธรรมดา [4,5]
- ไข้อ่อนๆ ไม่เกิน 38.5°C
- คัดจมูก น้ำมูกไหล
- จามบ่อย
- คอแห้ง เจ็บคอ เสียงแหบ
- ไอเล็กน้อยถึงปานกลาง
- ปวดศีรษะ
- อ่อนเพลีย
วิธีการดูแลรักษาไข้หวัดธรรมดา [5,6]
ไข้หวัดธรรมดาเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจ การดูแลที่ดีจะช่วยบรรเทาอาการให้หายเร็วขึ้น ซึ่งโดยทั่วไปจะหายเองภายใน 7-10 วัน ซึ่งวิธีการดูแลรักษาไข้หวัดธรรมดาจะมี ดังนี้
-
ดื่มน้ำอุ่นมากๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายสามารถซ่อมแซมและฟื้นฟูตัวเองได้เร็วขึ้น
-
เมื่อมีไข้สูงเกิน 38.5°C สามารถใช้พาราเซตามอล เพื่อลดไข้และบรรเทาอาการปวดเมื่อยได้ รวมถึงจะต้องเช็ดตัวบ่อยๆ เพื่อควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย
-
ถ้ามีอาการเจ็บคอหรือไอ กลั้วคอด้วยน้ำเกลือวันละ 2-3 ครั้ง เพื่อลดการอักเสบ หรือจิบน้ำอุ่นหรือน้ำผึ้งผสมมะนาว เพื่อบรรเทาอาการไอและระคายเคืองคอ หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้คอแห้งและระคายเคืองมากขึ้นได้
-
หลีกเลี่ยงอากาศแห้งโดยการใช้เครื่องทำความชื้นเพราะจะช่วยลดการระคายเคืองจมูกและคอได้
-
หากจมูกอุดตันหรือมีน้ำมูกมาก ควรใช้น้ำเกลือล้างจมูก เพื่อช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น
-
หากจำเป็นต้องออกไปข้างนอก ควรสวมหน้ากากอนามัย เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อ
-
การนอนหลับให้เพียงพอจะช่วยลดความเหนื่อยล้าจากอาการไข้และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการฟื้นฟูร่างกายเร็วขึ้น
วิธีป้องกันไข้หวัดธรรมดา [4,5]
- ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจล
- ไม่เข้าใกล้ผู้ป่วยและระวังการสัมผัสสารคัดหลั่งจากผู้ป่วย
- ปิดปากและจมูก เมื่อไอหรือจาม จะช่วยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อโรคได้
- ไม่ใช้ของใช้ร่วมกับผู้อื่น เช่น แก้วน้ำ หรือผ้าเช็ดหน้า
- เมื่ออยู่ในที่แออัดต้องสวมหน้ากากอนามัยอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการติดเชื้อหวัด
- ออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง
ที่มาของข้อมูล:
- โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์: “โรคไข้เลือดออก ภัยร้ายจากยุงลาย”.
- สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย: “ตารางการให้วัคซีนในเด็กไทย แนะนำโดย สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย 2568”.
- คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล: “มารู้จัก “ไข้เลือดออก” ภัยร้ายที่อยู่ใกล้ตัว ตอนที่ 2”.
- โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์: “ไข้หวัด”.
- โรงพยาบาลเพชรเวช: “ไข้หวัด โรคที่ทุกคนสามารถเป็นได้ตลอดปี”.
- Clevelandclinic : “Common Cold”.
“ข้อมูลในเอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นสำหรับประชาชนเป็นการทั่วไปโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการให้ข้อมูลเท่านั้น ข้อมูลนี้ไม่ควรถูกนำไปใช้เพื่อวินิจฉัยหรือรักษาปัญหาสุขภาพหรือโรคใด ๆ การให้ข้อมูลดังกล่าวนี้ไม่มีวัตถุประสงค์เป็นการทดแทนการปรึกษากับผู้ให้บริการทางการแพทย์ โปรดปรึกษาผู้ให้บริการทางการแพทย์ของท่านสำหรับคำแนะนำเพิ่มเติม”
C-ANPROM/TH/DENV/0772: MAY 2025