เป็นประจำเดือนต่อเนื่องกว่า 2 อาทิตย์

เป็นประจำเดือนต่อเนื่องมา 2 อาทิตย์แล้ว ยังไม่หาย แบบนี้ปกติมั้ย

การที่ประจำเดือนมาเกิน 2 อาทิตย์นั้นถือว่าไม่ปกติค่ะ โดยปกติแล้วรอบเดือนของผู้หญิงจะอยู่ระหว่าง 3-7 วัน และมักจะมาในรอบประมาณ 21-35 วัน หากประจำเดือนของคุณมาเกินปกติ อาจมีสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพหรือการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย การสังเกตและประเมินสถานการณ์อย่างรอบคอบจะช่วยให้เข้าใจถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นได้ค่ะ

สาเหตุที่อาจเป็นไปได้:

  1. ความไม่สมดุลของฮอร์โมน
    ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนควบคุมรอบประจำเดือน หากฮอร์โมนเหล่านี้ไม่สมดุล อาจทำให้มีเลือดออกมาเกินปกติ หรือยาวนานขึ้นได้ค่ะ
  2. ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับมดลูก
    เช่น เนื้องอกในมดลูก (fibroids), เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (endometriosis) หรือมีโพลิปในมดลูก ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถทำให้มีเลือดประจำเดือนมาแบบยืดเยื้อได้ค่ะ
  3. ภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์
    หากมีความเป็นไปได้ของการตั้งครรภ์ อาการเช่นนี้อาจเกี่ยวข้องกับภาวะแท้ง หรือการตั้งครรภ์นอกมดลูกได้ค่ะ
  4. ผลข้างเคียงจากยา
    ยาคุมกำเนิด, ยาละลายลิ่มเลือด หรือยาบางชนิด อาจทำให้การมีประจำเดือนเกิดความผิดปกติได้ค่ะ
  5. โรคทางสุขภาพอื่นๆ
    เช่น ภาวะไทรอยด์, โรคเลือด (เช่น ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ) หรือการติดเชื้อในระบบสืบพันธุ์ค่ะ

คำแนะนำเบื้องต้น:

  • บันทึกอาการ
    บันทึกรายละเอียดเกี่ยวกับรอบเดือน เช่น จำนวนวันที่มีเลือดออก ความหนักเบาของเลือด และสีของเลือด เพื่อช่วยแพทย์วินิจฉัยค่ะ
  • ไปพบแพทย์
    หากอาการยังคงเป็นต่อเนื่อง ควรปรึกษาสูตินรีแพทย์เพื่อการตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคที่อาจแฝงอยู่ค่ะ
  • ดูแลสุขภาพตัวเอง
    รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนเพียงพอ และหลีกเลี่ยงความเครียด เพราะสิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อสมดุลฮอร์โมนได้ค่ะ

อย่าละเลยอาการนี้นะคะ เนื่องจากประจำเดือนที่มานานผิดปกติอาจเป็นสัญญาณของปัญหาที่ร้ายแรง หากสงสัยเพิ่มเติม สามารถสอบถามมาได้ค่ะ