พึ่งทานยาคุมแผงแรก ครั้งแรก (แอนนีลิน) ตอนเมนมาวันที่2 เมนมาวันที่28 พฤษภา ปกติเมนจะมา6วัน จนตอนนี้ วันที่ 13มิถุนา ยังไม่หาย แบบนี้ปกติไหม และทำยังไงให้เมนหายไว
การที่คุณถามว่าควรเปลี่ยนยาคุมหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการค่ะ เนื่องจากยาคุมเป็นการปรับสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย และในช่วงแรกที่เริ่มทาน ร่างกายอาจยังปรับตัวไม่สมบูรณ์ ซึ่งอาจทำให้มีเลือดออกผิดปกติหรือมีประจำเดือนที่ดูเหมือนไม่หยุดมาได้ค่ะ มาลองพิจารณาสถานการณ์และแนวทางกันนะคะ:
1. ประเมินอาการและระยะเวลาการใช้ยาคุม
- ช่วงระยะเวลาเริ่มต้น: หากคุณเพิ่งเริ่มใช้ยาคุมแผงแรกและอาการนี้เริ่มหลังจากที่ทานยา อาจเป็นเพียงการปรับตัวของร่างกายกับระดับฮอร์โมนใหม่ค่ะ ซึ่งอาจใช้เวลาประมาณ 2-3 แผงยาคุมจนกว่าร่างกายจะปรับตัวสมบูรณ์
- ลักษณะของเลือด: หากเลือดที่ออกเป็นเพียงหยดเล็ก ๆ หรือปริมาณไม่ได้มากจนผิดปกติ อาจเป็นเรื่องที่พบได้ในช่วงต้น แต่หากเลือดออกเยอะจนมีผลต่อการทำกิจวัตรประจำวัน หรือทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย ควรรีบปรึกษาแพทย์ค่ะ
2. พฤติกรรมการใช้ยาคุม
- การทานตรงเวลา: ควรตรวจสอบว่าคุณทานยาในเวลาใกล้เคียงกันทุกวันหรือไม่ หากมีการลืมทานยา หรือทานในเวลาที่ต่างกันมาก อาจทำให้มีเลือดออกผิดปกติได้ค่ะ
- ประเภทของยาคุม: ยาคุมแต่ละชนิดมีปริมาณและส่วนประกอบของฮอร์โมนที่แตกต่างกัน บางครั้งยาที่คุณใช้อาจมีฮอร์โมนที่ไม่เหมาะกับร่างกายของคุณ ผลคือทำให้ประจำเดือนมาไม่หยุดค่ะ
3. เมื่อควรเปลี่ยนยาคุมหรือพบแพทย์
- กรณีต้องเปลี่ยนยา: หากคุณใช้ยาคุมมาเกิน 2-3 แผงแล้ว และยังมีอาการประจำเดือนมาไม่หยุด หรือมีอาการอื่นร่วม เช่น ปวดหัวมากผิดปกติ ปวดท้องรุนแรง หรือเลือดออกจำนวนมาก แพทย์อาจพิจารณาเปลี่ยนยาคุมชนิดอื่นที่มีฮอร์โมนเหมาะสมกับคุณค่ะ
- การติดต่อแพทย์: ก่อนเปลี่ยนยาเอง แนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง เพื่อป้องกันปัญหาความไม่สมดุลของฮอร์โมนและลดความเสี่ยงอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นค่ะ
สรุป
หากอาการนี้อยู่ในช่วงเดือนแรกและไม่มีอาการผิดปกติอื่นร่วม อาจให้ร่างกายปรับตัวอีกเล็กน้อยค่ะ แต่หากอาการยังคงอยู่หรือมีความรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อปรับเปลี่ยนยาคุมให้เหมาะสมกับร่างกายของคุณนะคะ
ควรเปลี่ยนยาคุมไหมคะ ประจำเดือนมาไม่หยุดเลยค่ะ
การที่ประจำเดือนมาไม่หยุดหลังจากเริ่มทานยาคุมเป็นครั้งแรก อาจมีหลายปัจจัยที่ส่งผลค่ะ เรามาดูปัจจัยเหล่านี้ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนยาคุมนะคะ:
สาเหตุที่อาจเกิดขึ้น:
-
การปรับตัวของร่างกาย:
- สำหรับผู้ที่เริ่มรับประทานยาคุมครั้งแรก ร่างกายอาจต้องใช้เวลาสักระยะ (ปกติ 2-3 เดือน) เพื่อปรับสมดุลกับฮอร์โมนจากยา
- ในช่วงนี้อาจมีอาการเลือดออกกะปริดกะปรอย หรือที่เรียกว่า “Breakthrough bleeding” เกิดขึ้นได้ แต่อาการมักจะดีขึ้นเมื่อทานยาต่อไปค่ะ
-
ฮอร์โมนในยาคุมไม่เหมาะสม:
- ยาคุมแต่ละยี่ห้อมีปริมาณและชนิดของฮอร์โมนที่แตกต่างกัน หากยาที่ใช้อยู่มีฮอร์โมนบางชนิดที่ไม่เหมาะกับร่างกาย อาจเกิดอาการเลือดออกต่อเนื่องได้
-
พฤติกรรมการทานยา:
- หากมีการลืมทานยา หรือทานยาไม่ตรงเวลา อาจส่งผลให้ระดับฮอร์โมนไม่สมดุลและกระตุ้นการมีเลือดออกค่ะ
วิธีการตัดสินใจ:
- ควรให้ร่างกายมีเวลาในการปรับตัวประมาณ 2-3 เดือนก่อนเปลี่ยนยาคุม หากเลือดยังออกต่อเนื่องหรือมีอาการรุนแรง เช่น ศีรษะเวียน เลือดออกเยอะมาก ควรรีบพบแพทย์ค่ะ
- แพทย์อาจแนะนำยาคุมชนิดอื่นที่เหมาะสม เช่น ยาคุมที่มีระดับฮอร์โมนต่ำลง หรือปรับประเภทฮอร์โมนให้เหมาะสมกับร่างกาย
คำแนะนำเพิ่มเติม:
- หากประจำเดือนมาไม่หยุดเกิน 7-10 วัน โดยมีลักษณะเลือดออกมากผิดปกติจนรู้สึกอ่อนเพลีย ควรพบแพทย์โดยทันทีค่ะ
- อย่าหยุดหรือเปลี่ยนยาเองโดยไม่มีคำแนะนำจากแพทย์ เพราะอาจส่งผลต่อการควบคุมฮอร์โมนนะคะ
สรุปคือ ถ้าไม่มีอาการรุนแรงเพิ่มเติม อาจลองให้เวลาร่างกายปรับตัวอีกนิด แล้วถ้าประจำเดือนยังมาไม่หยุดหรือมีอาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาเปลี่ยนยาคุมชนิดใหม่ค่ะ