มีเลือดประจำเดือนออกมากหลังฉีดยาคุมแบบ 3 เดือน

ฉีดยาคุมแบบ3เดือนมา4ปี แล้วมาเดือนนี้ กำหนดฉีดใหม่วันที่25มิถุนายน68ยุปวดท้องมากๆแล้วมีเลือดประจำเดือนออกมาเยอะมากๆ ทั้งๆทุ่ปกติไม่มีประจำเดือนมาเลยค่ะตลอด4ปี

อาการที่คุณเล่ามาเกี่ยวกับการมีเลือดประจำเดือนออกมาเยอะและปวดท้องมากๆ ทั้งๆ ที่ปกติไม่เคยมีประจำเดือนหลังฉีดยาคุมแบบ 3 เดือน ถือว่าเป็นสถานการณ์ที่ต้องสังเกตและให้ความสนใจค่ะ เนื่องจากยาคุมชนิดนี้มีผลกระทบต่อระบบฮอร์โมนของร่างกาย จึงเป็นไปได้ที่เมื่อใช้มานาน อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนหรือสุขภาพภายในค่ะ

  1. สาเหตุที่เป็นไปได้:

    • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน: การใช้ยาคุมเป็นระยะเวลานานอาจทำให้สมดุลฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้มีเลือดออกเยอะมากกว่าปกติค่ะ
    • ผลของการสะสมที่มานาน: เมื่อใช้ยาคุมนาน รังไข่และมดลูกอาจมีการตอบสนองในรูปแบบที่แตกต่างกัน เช่น ผนังมดลูกหนาขึ้นแล้วเกิดการขับออกแบบไม่คงที่ค่ะ
    • ปัญหาสุขภาพอื่นๆ: เช่น ซีสต์ในมดลูก หรือเนื้องอกที่อาจเป็นผลข้างเคียงของยาคุมหรือเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ค่ะ
  2. คำแนะนำในเบื้องต้น:

    • ควรเข้าพบสูติ-นรีแพทย์โดยเร็วเพื่อให้สามารถตรวจสอบภายในอย่างละเอียดค่ะ ยิ่งหากมีเลือดออกมากและปวดท้องมาก ควรระวังเรื่องการเสียเลือดจนเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะโลหิตจางค่ะ
    • หากมีการใช้ยาคุมต่อเนื่องนาน ควรให้แพทย์ประเมินว่าควรหยุดใช้หรือปรับเปลี่ยนวิธีการคุมกำเนิดเป็นชนิดอื่นที่เหมาะสมมากกว่าค่ะ
    • คอยสังเกตลักษณะเลือด เช่น สี กลิ่น หรือการออกมาเป็นก้อนผิดปกติ แล้วแจ้งแพทย์เมื่อได้รับการตรวจค่ะ
  3. การดูแลตัวเองในระหว่างนี้:

    • พักผ่อนและหลีกเลี่ยงการยกของหนักหรือทำกิจกรรมที่เครียดค่ะ
    • ดื่มน้ำและเลือกรับประทานอาหารที่ช่วยเสริมสร้างเลือด เช่น ผักใบเขียวและเนื้อสัตว์ค่ะ
    • ติดตามอาการว่ามีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ เช่น หากเลือดหยุดเองได้หรืออาการดีขึ้น แต่หากแย่ลงควรรีบไปโรงพยาบาลค่ะ

ภาวะนี้อาจเกิดขึ้นจากผลของการใช้ยาคุมชนิด 3 เดือน และคุณควรตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดค่ะ หากยังมีคำถามหรือข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถสอบถามต่อได้เลยนะคะ