ถ้ายังมีเลือดออกและปวดท้อง ควรไปพบแพทย์ไมค่ะ รึเป็นปกติของยาคุมชนิดนี้ แต่ฉีดมา4ปีเลือดไม่มีมาเลยไม่เคยมีเลือดเลย จนมาครั้งนี้มีเลือดออกมาและปวดท้องน้อยปวดหลังปวดมากๆ
การที่คุณพบว่ามีเลือดออกและปวดท้องน้อย ปวดหลัง หลังจากใช้ยาคุมชนิดฉีดมานานกว่า 4 ปีและไม่มีเลือดออกมาก่อนนั้น อาจเป็นสัญญาณที่ต้องให้ความสนใจค่ะ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวอาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การติดเชื้อ หรือปัญหาเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์ ขอแนะนำดังนี้นะคะ:
-
ความเป็นไปได้เกี่ยวกับฮอร์โมน
- ยาคุมกำเนิดชนิดฉีดมีผลต่อฮอร์โมนในร่างกาย ซึ่งอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบประจำเดือน
- บางครั้งการมีเลือดออก (Spotting) หรือมีเลือดลักษณะผิดปกติสามารถเกิดได้ โดยเฉพาะถ้าใช้ต่อเนื่องมานาน
- หากเลือดยังคงออกอยู่ในปริมาณที่มาก หรือมีความเจ็บปวดที่ไม่ปกติ อาจบ่งบอกถึงภาวะที่ควรได้รับประเมินจากแพทย์ค่ะ
-
ปัจจัยทางการติดเชื้อหรืออาการเจ็บป่วยอื่นๆ
- หากมีอาการปวดมากร่วมกับเลือดออก อาจเกิดจากการติดเชื้อในระบบสืบพันธุ์ เช่น การอักเสบของมดลูกหรือปีกมดลูก หรืออาจเกิดภาวะอื่นๆ เช่น ถุงน้ำรังไข่
- อาการปวดหลังและท้องส่วนล่างอาจเกี่ยวข้องกับโรคที่ไม่ได้เฉพาะเจาะจง เช่น นิ่ว หรือปัญหาระบบทางเดินปัสสาวะ
-
ความสำคัญของการพบแพทย์
- หากเลือดออกและอาการปวดมีความรุนแรงขึ้น หรือไม่บรรเทาใน 2-3 วัน รวมถึงมีอาการอื่นร่วม เช่นไข้สูง หรือคลื่นไส้อาเจียน ควรรีบพบแพทย์ค่ะ
- การตรวจด้วยอัลตราซาวด์ อาจช่วยวินิจฉัยอาการได้ชัดเจนมากขึ้น รวมถึงแพทย์สามารถตรวจระบบต่างๆ เพื่อชี้แจงแน่ชัดว่าปัญหาเกิดจากอะไร
สรุปคือ ควรพบแพทย์เพื่อรับคำปรึกษาเพื่อความปลอดภัยและตรวจสอบสุขภาพโดยละเอียดค่ะ อย่าปล่อยไว้เพราะอาการอาจบ่งชี้ถึงภาวะที่ต้องการการรักษาเร็วค่ะ