มีตุ่มขึ้นที่อวัยวะเพศหญิง คันและเจ็บมาก ต้องทำยังไง
ถ้าคุณมีตุ่มขึ้นบริเวณอวัยวะเพศหญิง มีอาการคันและเจ็บ มีความเป็นไปได้ว่าจะมาจากหลายสาเหตุ ซึ่งเหตุผลที่พบบ่อยประกอบด้วย:
- 
การติดเชื้อรา: การติดเชื้อราที่อวัยวะเพศหญิง เช่น เชื้อยีสต์ (Candidiasis) อาจทำให้เกิดตุ่ม คัน และเจ็บร่วมกับอาการตกขาวที่เหนียวข้นหรือคล้ายชีส
 - 
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD): ตุ่มที่เจ็บอาจเกี่ยวข้องกับโรคติดต่อ เช่น เริม (Herpes) ซึ่งมักมีตุ่มน้ำและเจ็บเวลาแตก หรืออาการซิฟิลิสในระยะแรกที่เกิดเป็นตุ่ม
 - 
การแพ้หรือระคายเคือง: อาจเกิดจากสารเคมีในสบู่ ผงซักฟอก หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดบริเวณนั้น
 - 
ขนคุด: การถอนหรือโกนขนบริเวณอวัยวะเพศอาจทำให้เกิดขนคุดซึ่งมีลักษณะเป็นตุ่มแดง เจ็บ และมีอาการคัน
 
วิธีแก้ไขเบื้องต้น
- หลีกเลี่ยงการเกา เนื่องจากอาจทำให้เกิดการติดเชื้อเพิ่มเติมได้ค่ะ
 - ทำความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศอย่างอ่อนโยนด้วยน้ำเปล่า หลีกเลี่ยงการใช้สบู่ที่มีน้ำหอม
 - สวมใส่เสื้อผ้าชั้นในที่สะอาด โปร่งสบาย และทำจากผ้าฝ้าย
 - หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์จนกว่าจะทราบแน่ชัดว่าอาการเกิดจากอะไร
 
ควรพบแพทย์
หากอาการตุ่ม คัน และเจ็บนี้ไม่ดีขึ้นใน 2-3 วัน หรือมีอาการเพิ่มเติม เช่น ตกขาวผิดปกติ มีไข้ หรือตุ่มลุกลาม ควรรีบไปพบแพทย์หรือนรีแพทย์โดยเร็ว ค่ะ เพื่อทำการตรวจร่างกายและวินิจฉัยอย่างละเอียด เพราะการรักษาจะแตกต่างกันไปตามสาเหตุนะคะ
หวังว่าคำแนะนำนี้จะเป็นประโยชน์ค่ะ