ตกขาวมีสีน้ำตาล ไหลออกมาเป็นน้ำ มีกลิ่น คัน ปากช่องคลอดมีแผล เจ็บท้องน้อย มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ เกิดจากสาเหตุอะไรคะ
อาการตกขาวสีน้ำตาลที่ไหลออกมาเป็นน้ำ มีกลิ่น คัน ปากช่องคลอดมีแผล เจ็บท้องน้อย และมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ อาจเกิดจากหลากหลายสาเหตุที่ควรพิจารณาดังนี้ค่ะ:
-
การติดเชื้อในช่องคลอดหรืออุ้งเชิงกราน
- การติดเชื้อแบคทีเรีย (Bacterial Vaginosis) หรือการติดเชื้อรา เช่น เชื้อราแคนดิดา (Candida) ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ และมีอาการคันร่วมด้วยค่ะ
- การติดเชื้อที่รุนแรงขึ้น เช่น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (Sexually Transmitted Infections: STIs) เช่น หนองใน (Gonorrhea) หรือคลามีเดีย (Chlamydia) ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการเจ็บท้องน้อยและเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ค่ะ
-
การอักเสบหรือการบาดเจ็บของช่องคลอดและปากมดลูก
การมีแผลที่ปากช่องคลอดร่วมกับเลือดออก อาจเกิดจากการบาดเจ็บจากการมีเพศสัมพันธ์ หรืออาจเกิดจากภาวะปากมดลูกอักเสบ (Cervicitis) หรือมีเนื้องอกในปากมดลูกที่ควรตรวจสอบค่ะ -
ภาวะที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนหรือประจำเดือน
อาการตกขาวสีน้ำตาลอาจเกิดจากเลือดประจำเดือนที่เหลือค้างในมดลูก โดยปกติควรสังเกตว่าอาการดังกล่าวมีความสัมพันธ์กับรอบเดือนหรือไม่ค่ะ
คำแนะนำเพิ่มเติม:
- ควร รีบพบแพทย์สูตินรีเวช เพื่อตรวจร่างกายและตรวจชิ้นเนื้อ (Pap smear) หรือการเพาะเชื้อตกขาว เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงค่ะ
- หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงนี้ เพื่อลดโอกาสการแพร่เชื้อหรือการทำให้แผลรุนแรงยิ่งขึ้น
- รักษาสุขอนามัยของช่องคลอด เช่น หลีกเลี่ยงสบู่ที่มีความเป็นด่างสูง
อย่าปล่อยให้อาการเหล่านี้ยืดเยื้อเพราะอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงต่อสุขภาพในอนาคตได้ค่ะ