1.เพราะเหตุใดหลอดเลือดแดงที่นำเลือดออกจากหัวใจไปยังปอดจึงมีปริมาณแก๊สออกซิเจนต่ำ และหลอดเลือดดำที่นำเลือดจากปอดเข้าสู่หัวใจจึงมีปริมาณแก๊สออกซิเจนสูง
2.การรับประทานอาหารที่มีไขมันและคอเลสเตอรอลสูง ส่งผลต่อการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดอย่างไร
-
หลอดเลือดแดงที่นำเลือดไปยังปอดมีปริมาณแก๊สออกซิเจนต่ำ แต่หลอดเลือดดำที่นำเลือดกลับเข้าสู่หัวใจมีแก๊สออกซิเจนสูง
- หลอดเลือดแดงที่นำเลือดจากหัวใจไปยังปอด เรียกว่า “หลอดเลือดแดงปอด” (Pulmonary Artery) ซึ่งเป็นหลอดเลือดที่มีความผิดปกติเล็กน้อยเมื่อเทียบกับหลอดเลือดแดงทั่วๆ ไปค่ะ โดยเลือดในหลอดเลือดนี้มีปริมาณแก๊สออกซิเจนต่ำ เนื่องจากเป็นเลือดที่ผ่านการไหลเวียนในร่างกายแล้วยังไม่ได้รับการเติมเต็มแก๊สออกซิเจนจากปอดค่ะ
- เมื่อเลือดเข้าสู่ปอด จะเกิดการแลกเปลี่ยนแก๊สในถุงลมของปอด โดยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) ในเลือดจะถูกขับออกจากร่างกาย และเลือดจะได้รับแก๊สออกซิเจน (O₂) แทนค่ะ
- ส่วนหลอดเลือดดำที่นำเลือดจากปอดเข้าสู่หัวใจ เรียกว่า “หลอดเลือดดำปอด” (Pulmonary Vein) โดยเลือดในหลอดเลือดนี้มีปริมาณแก๊สออกซิเจนสูง เนื่องจากเลือดได้ผ่านกระบวนการเติมเต็มออกซิเจนในปอดแล้ว ก่อนที่จะส่งกลับเข้าสู่หัวใจเพื่อปั๊มส่งไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกายค่ะ
-
ผลของการรับประทานอาหารไขมันและคอเลสเตอรอลสูงต่อการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด
- การรับประทานอาหารที่มีไขมันและคอเลสเตอรอลสูงอาจนำไปสู่การสะสมของไขมันในหลอดเลือด ซึ่งเรียกว่า “ภาวะหลอดเลือดตีบตัน” (Atherosclerosis) ทำให้การไหลเวียนของเลือดในหลอดเลือดแดงลดลงค่ะ
- ภาวะหลอดเลือดตีบตันนี้เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ (Coronary Artery Disease) หรือแม้กระทั่งหัวใจวาย (Heart Attack) เนื่องจากหลอดเลือดที่นำเลือดไปยังหัวใจเกิดการอุดตันค่ะ
- นอกจากนี้ อาหารไขมันสูงสามารถทำให้ระดับไขมันในเลือดเพิ่มขึ้น รวมถึงคอเลสเตอรอล LDL (Low-Density Lipoprotein) ซึ่งเป็นชนิดที่มักสะสมในหลอดเลือด และลดระดับคอเลสเตอรอล HDL (High-Density Lipoprotein) ซึ่งช่วยกำจัดคอเลสเตอรอลออกจากหลอดเลือด ส่งผลกระทบต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดในระยะยาวค่ะ
การหลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูงและการเลือกอาหารที่มีไฟเบอร์สูง โปรตีนดี และไขมันไม่อิ่มตัวสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาหลอดเลือดและหัวใจได้ค่ะ