อสุจิสีเหลืองเป็นเวลานาน

อสุจิมีสีเหลือง เป็นอะไร

อสุจิมีสีเหลืองอาจเกิดจากหลายสาเหตุค่ะ ส่วนใหญ่ไม่ใช่อาการที่อันตราย แต่บางครั้งอาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพบางประการได้ สาเหตุที่พบบ่อยมีดังนี้:

  1. การสะสมของอสุจิ: หากไม่ได้หลั่งอสุจิมาเป็นเวลานาน อสุจิอาจมีสีเหลืองจากการที่เซลล์อสุจิสะสมและสลายในองคชาตตามธรรมชาติค่ะ
  2. อาหารและวิตามิน: การบริโภคอาหารที่มีสีเหลือง เช่น แครอท หรืออาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินบี อาจส่งผลให้สีของอสุจิเหลืองได้ค่ะ
  3. การติดเชื้อ: การที่อสุจิมีสีเหลืองอาจเกิดจากการติดเชื้อ เช่น การติดเชื้อในระบบสืบพันธุ์ การอักเสบของต่อมลูกหมาก หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองในค่ะ
  4. ผสมกับปัสสาวะ: ถ้าหลั่งอสุจิในขณะที่มีกลิ่นและสีเหมือนปัสสาวะ อาจเป็นสัญญาณว่ามีอสุจิปนกับปัสสาวะค่ะ

หากอสุจิสีเหลืองมาพร้อมอาการเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์:

  • มีอาการเจ็บหรือปวดบริเวณอวัยวะเพศ
  • มีกลิ่นที่ผิดปกติ
  • อสุจิมีเลือดปน
  • อาการผิดปกติอื่น เช่น ไข้ หรืออาการแสบร้อนขณะปัสสาวะ

ถ้าไม่มีอาการผิดปกติร่วม อาการนี้อาจเกิดเพียงชั่วคราวและไม่เป็นอันตรายค่ะ แต่หากยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและตรวจสอบเพิ่มเติมค่ะ

เป็นมาเป็นเวลา 1 สัปดาห์แล้ว

ถ้าอสุจิมีสีเหลืองและเป็นต่อเนื่องมาเป็นเวลา 1 สัปดาห์ อาจต้องพิจารณาถึงสาเหตุในเชิงลึกมากขึ้นค่ะ แม้ว่าสาเหตุส่วนใหญ่จะไม่ร้ายแรง แต่ก็มีบางกรณีที่ควรได้รับการประเมินโดยแพทย์เพื่อความมั่นใจ ต่อไปนี้คือสาเหตุและคำแนะนำที่เกี่ยวข้อง:

สาเหตุ:

  1. การติดเชื้อในระบบสืบพันธุ์
    • การติดเชื้อในต่อมลูกหมาก (Prostatitis) หรือต่อมต่าง ๆ ภายในระบบสืบพันธุ์อาจทำให้อสุจิมีสีเหลืองได้ค่ะ
    • บางครั้งอาจมาพร้อมกับอาการอื่น เช่น ปวดบริเวณอวัยวะเพศ ไข้ หรือแสบเวลาปัสสาวะ
  2. โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
    • หากมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน อาจมีความเป็นไปได้ว่าเกิดจากโรคหนองในหรือโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
    • มักมาพร้อมกับอาการเจ็บปวด ปัสสาวะขุ่น หรือมีหนองร่วมค่ะ
  3. ปัญหาเกี่ยวกับต่อมลูกหมาก
    • การอักเสบหรือปัญหาอื่นของต่อมลูกหมากอาจส่งผลต่อสีอสุจิและการหลั่งค่ะ
  4. สารตกค้างจากปัสสาวะ
    • หากมีปัสสาวะปนในอสุจิ สีอาจดูเหลืองได้ แต่ปกติจะไม่เป็นต่อเนื่องค่ะ

คำแนะนำ:

  • หาหมอเพื่อวินิจฉัย: ถ้าอาการยังคงมีต่อเนื่องและไม่ชัดเจนว่าเป็นเพราะเหตุผลใด ควรพบแพทย์เฉพาะทางระบบทางเดินปัสสาวะหรือระบบสืบพันธุ์เพื่อรับการตรวจค่ะ แพทย์อาจทำการตรวจอสุจิ หรือแนะนำให้ส่งอัลตราซาวด์
  • การรักษาความสะอาด: ล้างทำความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศให้เหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดการติดเชื้อเพิ่มเติม
  • ระมัดระวังเรื่องเพศสัมพันธ์: หากมีหรือเคยมีพฤติกรรมเสี่ยง ควรตรวจสุขภาพเป็นระยะและใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งค่ะ

ถ้าหากอาการนี้ไม่ได้มาพร้อมกับอาการเจ็บปวดหรือผิดปกติอื่น ๆ อาจไม่ใช่ปัญหาร้ายแรง แต่ก็ควรพบแพทย์เพื่อให้ได้คำตอบที่แน่ชัดและสบายใจค่ะ