ขั้นตอนการตรวจภูมิแพ้ทางผิวหนัง

ตรวจภูมิแพ้ ผิวหนัง มีขั้นตอนยังไง?

ขั้นตอนการตรวจภูมิแพ้ผิวหนังมีหลายวิธีที่แพทย์อาจเลือกใช้เพื่อประเมินและวินิจฉัยปัญหาภูมิแพ้ค่ะ วิธีหลักที่ใช้กันมากมีดังนี้:

  1. การทดสอบสะกิดผิวหนัง (Skin Prick Test)

    • วิธีนี้เป็นวิธีที่รวดเร็วและนิยมใช้มากที่สุด
    • แพทย์จะหยดสารก่อภูมิแพ้ (เช่น ฝุ่น เกสรดอกไม้ หรืออาหาร) บนผิวหนัง โดยปกติบริเวณแขนหรือหลัง
    • จากนั้นใช้เข็มหรืออุปกรณ์สะกิดผิวหนังเบา ๆ เพื่อให้สารซึมเข้าสู่ชั้นผิว
    • หากคุณมีอาการแพ้ จะพบว่าบริเวณที่สัมผัสสารนั้นเกิดรอยบวมแดงคล้ายตุ่มยุงกัดภายใน 15-20 นาที
  2. การทดสอบแผ่นปิดผิวหนัง (Patch Test)

    • วิธีนี้ใช้ตรวจหาภูมิแพ้ที่เกิดจากสารเคมีหรือสัมผัส เช่น โลหะ น้ำหอม หรือสารบางอย่างในเครื่องสำอาง
    • แพทย์จะติดแผ่นที่มีสารก่อภูมิแพ้บนผิวหนังด้านหลัง
    • แผ่นปิดจะต้องติดไว้นานประมาณ 48 ชั่วโมง และแพทย์จะตรวจสอบผลในช่วง 72-96 ชั่วโมงหลังติดเพื่อดูปฏิกิริยา
  3. การทดสอบฉีด (Intradermal Test)

    • สำหรับกรณีที่การทดสอบสะกิดผิวหนังให้ผลไม่ชัดเจน
    • แพทย์จะฉีดสารก่อภูมิแพ้เข้าไปในชั้นตื้นของผิว แล้วสังเกตอาการแพ้หรือการบวมแดง
    • วิธีนี้ใช้เวลานานกว่าวิธีการสะกิด
  4. การเก็บประวัติแพ้และตรวจร่างกาย

    • นอกจากการทดสอบทางผิวหนัง แพทย์จะซักถามประวัติอาการแพ้ เช่น ช่วงเวลาที่เกิด อาหารที่รับประทาน หรือเรื่องสภาพแวดล้อม
    • เพื่อหาความเชื่อมโยงกับสารก่อภูมิแพ้

การตรวจภูมิแพ้ผิวหนังควรทำโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญในสถานพยาบาลที่มีความพร้อมค่ะ อาจมีการงดใช้ยาบางชนิด เช่น ยาแก้แพ้หรือยาสเตียรอยด์ล่วงหน้าก่อนตรวจตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อไม่ให้ผลลัพธ์เกิดการบิดเบือนค่ะ หากคุณสงสัยว่ามีอาการภูมิแพ้ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องค่ะ