สอดใส่ครั้งแรกแล้วเลือดออก ท้องมั้ย
การที่เลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกถือว่าเป็นสิ่งที่พบได้บ่อยค่ะ โดยสาเหตุส่วนใหญ่มาจาก:
- การฉีกขาดของเยื่อพรหมจารี (Hymen): เป็นเยื่อบางๆ ที่อยู่ในช่องคลอดและอาจฉีกขาดเมื่อมีการสอดใส่ครั้งแรก
- การเสียดสีของเยื่อบุช่องคลอด: ถ้าไม่มีการหล่อลื่นเพียงพอ หรือเกิดจากการที่ช่องคลอดยังไม่คุ้นชินกับการสอดใส่
- การบาดเจ็บเล็กน้อยอื่นๆ: อาจเกิดจากการสอดใส่ในลักษณะที่รุนแรงหรือรวดเร็ว เป็นต้น
ส่วนในเรื่อง “โอกาสตั้งครรภ์” นั้น คำตอบขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องต่อไปนี้ค่ะ:
- หากเกิดการหลั่งน้ำอสุจิในช่องคลอด หรือใกล้ๆ กับปากช่องคลอด และในช่วงที่ไข่ตก จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ค่ะ
- แต่ถ้ามีการสวมถุงยางหรือหลีกเลี่ยงการหลั่งในช่องคลอด โอกาสตั้งครรภ์จะลดลงไปอย่างมากค่ะ
ถ้าคุณกังวลเรื่องการตั้งครรภ์ แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดตรวจที่สามารถหาได้จากร้านขายยา หลังจากการมีเพศสัมพันธ์ไม่น้อยกว่า 14 วัน หรือสามารถรับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญค่ะ นอกจากนี้ควรดูแลให้การป้องกันในอนาคต เช่น ใช้ถุงยางอนามัยหรือยาคุมกำเนิด เพื่อป้องกันทั้งการตั้งครรภ์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ค่ะ
ใส่ถุงยางแต่มันล่นขึ้นมา จะท้องมั้ย
หากถุงยางอนามัยล่นขึ้นมาหรือไม่อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องในระหว่างมีเพศสัมพันธ์ อาจมีโอกาสเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ดังนี้ค่ะ:
-
อสุจิหลุดออกมานอกถุงยาง: หากถุงยางหลุดขึ้นมาจนถึงขั้นที่มีอสุจิไหลออกมาจากปลายถุงยางและเข้าสัมผัสช่องคลอดโดยตรง โอกาสตั้งครรภ์มีอยู่ค่ะ โดยเฉพาะหากเป็นช่วงที่ไข่ตกของรอบเดือน
-
ถุงยางยังคลุมปลายองคชาตอยู่: หากถุงยางยังคลุมส่วนปลายองคชาต และไม่มีการหลุดออกโดยสมบูรณ์ โอกาสที่อสุจิจะเล็ดลอดออกมาน้อยกว่ามากค่ะ
-
การสวมใส่ถุงยางอย่างถูกต้อง: หากก่อนหน้านี้สวมถุงยางถูกต้อง (เช่น ไร้อากาศที่ปลายถุงยาง และใช้ถุงยางที่ได้มาตรฐาน) เเละเกิดล่นขึ้นมาเพียงเล็กน้อยโดยไม่มีรอยขาดหรือการหลุดทั้งหมด ความเสี่ยงตั้งครรภ์จะลดลงค่ะ
คำแนะนำเพิ่มเติม:
- หลังมีเพศสัมพันธ์ในกรณีนี้ หากกังวลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ แนะนำให้ใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ภายใน 72 ชั่วโมงหลังเหตุการณ์ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงค่ะ
- หากยังไม่มั่นใจ ตรวจการตั้งครรภ์ ด้วยชุดทดสอบที่ร้านขายยาได้ โดยตรวจหลังจากมีเพศสัมพันธ์แล้วประมาณ 14 วัน
ในอนาคตควรตรวจสอบการสวมถุงยางให้แน่นหนาและอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง รวมถึงการเลือกใช้ถุงยางที่มีขนาดพอดีค่ะ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้ในครั้งต่อไปค่ะ
เครียดเรื่องตั้งครรภ์มาก แต่ใส่ถุงยาง ไม่เสร็จ มีโอกาศท้องเยอะมั้ย
หากใส่ถุงยางอนามัยตลอดการมีเพศสัมพันธ์ และไม่มีการหลั่งภายใน (หรือส่วนปลายของถุงยาง) โอกาสตั้งครรภ์จะต่ำมากหรือแทบไม่มีเลยค่ะ เหตุผลที่ทำให้ความเสี่ยงน้อยมากในกรณีนี้ ได้แก่:
- การใช้ถุงยางอย่างถูกต้อง: หากถุงยางไม่มีรอยรั่วหรือขาด และสวมใส่อย่างพอดีตั้งแต่ต้นจนจบการมีเพศสัมพันธ์ โอกาสที่อสุจิจะออกจากถุงยางจนเข้าสู่ช่องคลอดนั้นแทบไม่มีค่ะ
- ไม่มีการหลั่ง: การที่ไม่มีการหลั่งอสุจิทำให้ไม่มีสเปิร์มที่จะทำให้เกิดการปฏิสนธิ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ต้องเกิดจึงจะนำไปสู่การตั้งครรภ์ค่ะ
- สารคัดหลั่ง (Pre-ejaculate): บางคนอาจกังวลเกี่ยวกับการมีสารคัดหลั่งที่อาจหลุดลอดออกมา แต่หากมีการสวมใส่ถุงยางตั้งแต่เริ่มจนจบ สารคัดหลั่งเหล่านั้นจะถูกเก็บไว้ภายในถุงยาง ไม่มีการสัมผัสกับช่องคลอดโดยตรงค่ะ
คำแนะนำเพิ่มเติม
- หากคุณยังรู้สึกไม่มั่นใจ อาจลองใช้ชุดตรวจการตั้งครรภ์เพื่อความสบายใจ โดยแนะนำให้ตรวจหลังเหตุการณ์ไม่น้อยกว่า 14 วันค่ะ
- ในอนาคต ควรตรวจสอบถุงยางก่อนและหลังใช้งานว่ามีความสมบูรณ์ดีหรือไม่ และเลือกขนาดที่เหมาะสมกับผู้ใช้งาน
- หากยังไม่พร้อมต่อการตั้งครรภ์ อาจพิจารณาใช้วิธีคุมกำเนิดเสริม เช่น ยาคุมกำเนิด เพื่อลดความวิตกกังวลต่อการตั้งครรภ์ในครั้งต่อไปค่ะ
เข้าใจดีว่าคุณอาจกำลังเครียด แต่จากข้อมูลที่ให้มา โอกาสตั้งครรภ์ในกรณีนี้ต่ำมากค่ะ หายใจลึกๆ และพยายามผ่อนคลายนะคะ