มีอาการระคายเคือง ข้างรูทวารค่ะ วันแรก มีรออยนูน ขึ้นมาข้างรูทวาร วันที่2 มีอาการเจ็บและอักเสบรอยนูนขึ้นมาเป็นตุ่ม วันที่ 3 เจ็บ มากๆ นั่งนานไม่ได้ เดินก็เจ็บ ตุ่มนั้นมีความใหญ่เท่าหัว คัตเติ้ลบัตนิ่มๆไม่แข็ง และมีหนองอยู่ที่ปลายหัวเหมือนสิว เป็นสิวหรือว่าเป็นฝีคะ แล้วถ้ารักษาเองดีขึ้นจะกลับมาเป็นอีกไหม ต้องรักษายังไงคะ
อาการที่คุณระบุว่ามีตุ่มเป็นหนองบริเวณข้างรูทวาร อาจเกิดจากหลายสาเหตุ โดยอาการที่คล้ายกับสิ่งที่คุณกล่าวมา น่าจะเป็นฝี (abscess) หรือสิวอักเสบที่บริเวณนั้น ซึ่งในรายละเอียดเฉพาะนี้ ฝีเป็นสิ่งที่ควรจะถูกพิจารณามากกว่า เนื่องจาก:
- ลักษณะของฝี: ฝีมักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้บริเวณนั้นอักเสบและสะสมของหนอง ฝีที่เกิดบริเวณใกล้รูทวารเรียกว่า “ฝีบริเวณทวารหนัก” (peri-anal abscess) อาการที่พบได้มักเป็นตุ่มบวมแดง อักเสบ มีหนองที่ปลาย และอาจรู้สึกเจ็บเมื่อสัมผัสหรือเคลื่อนไหว เช่น นั่งหรือเดินนานๆ
- สิวบริเวณทวาร: สิวเกิดจากการอุดตันของต่อมไขมันหรือรูขุมขน อาจมีอาการบวมแดงและมีหนอง แต่ค่อนข้างพบน้อยกว่าฝีในบริเวณดังกล่าว
- การแยกอาการ:
- ถ้าเป็นฝี คุณมักมีไข้ร่วมด้วย หรือมีอาการปวดมากแม้จะไม่มีแรงกดทับ
- ถ้าเป็นสิว อาการมักจะไม่รุนแรงถึงขั้นมีไข้
การรักษาเบื้องต้นและการดูแลตัวเอง:
- สำหรับฝี:
- ควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการระบายหนองอย่างถูกต้อง เพราะหากปล่อยไว้อาจทำให้การติดเชื้อแพร่กระจาย
- แพทย์อาจสั่งยาปฏิชีวนะถ้าการติดเชื้อค่อนข้างรุนแรง
- สำหรับสิว:
- คุณอาจทำความสะอาดบริเวณนั้นด้วยน้ำอุ่นและสบู่อ่อนๆ
- หลีกเลี่ยงการบีบหรือแกะตุ่มเพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบรุนแรงขึ้น
- การรักษาเพิ่มเติม:
- หากมีไข้หรืออาการไม่ดีขึ้นใน 2-3 วัน ควรรีบไปพบแพทย์
- การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เช่น รักษาความสะอาดของบริเวณทวารหนัก อาจช่วยลดโอกาสเกิดฝีหรือสิวซ้ำ
คำถามที่ควรใส่ใจเพิ่มเติม:
หากมีประวัติอาการซ้ำหลายครั้ง หรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบลำไส้ เช่น เจ็บเวลาขับถ่ายหรืออุจจาระมีเลือด ควรพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมเกี่ยวกับสุขภาพลำไส้ใหญ่หรือโรคอื่นๆ เช่น โรคฝีคัณฑสูตร (fistula) ค่ะ