เชื้อราบนหนังศีรษะมีอาการอย่างไร และควรรักษาอย่างไร?
เชื้อราบนหนังศีรษะ หรือที่เรียกว่า “Tinea Capitis” เป็นการติดเชื้อราที่หนังศีรษะซึ่งพบได้บ่อยในเด็ก แต่ผู้ใหญ่ก็สามารถเป็นได้ค่ะ อาการที่พบบ่อยและวิธีการรักษามีดังนี้:
อาการของเชื้อราบนหนังศีรษะ
- รอยแดงและคัน - บริเวณหนังศีรษะอาจมีอาการแดงและคันร่วมด้วยค่ะ
- ผิวหนังลอกเป็นขุย - เหมือนรังแค แต่เกิดเฉพาะในพื้นที่ที่ติดเชื้อ
- ผมร่วงเฉพาะจุด - เชื้อราอาจทำให้เกิดรอยหัวล้านเป็นหย่อมๆ ผมดูเปราะและหักง่าย
- ตุ่มหรือแผลบนหนังศีรษะ - ในบางกรณีอาจมีตุ่มหนองหรือแผลที่หนังศีรษะ
- บวม - หากอาการรุนแรง อาจเกิดบริเวณบวมแดงที่เรียกว่า “Kerion”
วิธีการรักษา
-
ยารับประทาน
- ยาต้านเชื้อรา เช่น ยา Griseofulvin หรือ Terbinafine มักถูกใช้รักษา เพื่อกำจัดต้นเหตุของเชื้อราจากภายใน
- แนะนำให้รับประทานยาตามคำสั่งแพทย์ เนื่องจากระยะเวลาการรักษาอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ค่ะ
-
ยาทาเฉพาะที่
- ใช้ร่วมกับยารับประทาน ยาทารักษาเชื้อรา เช่น ครีม Ketoconazole หรือ Ciclopirox ช่วยลดอาการที่หนังศีรษะ
-
การดูแลทำความสะอาด
- ล้างผมด้วยแชมพูยาต้านเชื้อรา เช่น แชมพู Selenium sulfide หรือ Ketoconazole เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อ
- หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น เช่น หวีหรือหมวก เพราะอาจทำให้แพร่กระจายเชื้อได้ค่ะ
-
หลีกเลี่ยงการสัมผัส
- ไม่ควรเกา หรือใช้นิ้วสัมผัสบริเวณที่ติดเชื้อ เพราะอาจทำให้การติดเชื้อแพร่กระจายไปที่อื่นหรือกลับมาเป็นซ้ำได้ค่ะ
หมายเหตุสำคัญ
หากอาการไม่ดีขึ้นหรือรุนแรงขึ้น ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อการรักษาที่เหมาะสมและป้องกันไม่ให้อาการลุกลามค่ะ การรักษาเร็วมีความสำคัญเพื่อป้องกันผลกระทบระยะยาว เช่น ผมร่วงถาวร
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคุณนะคะ หากมีคำถามเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ค่ะ!