หนองในแท้และหนองในเทียมต่างกันอย่างไร?
หนองในแท้และหนองในเทียมเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่มีความคล้ายคลึงกันในแง่ของอาการบางประการ แต่มีสาเหตุและลักษณะการติดเชื้อที่แตกต่างกันค่ะ ดังนี้:
หนองในแท้ (Gonorrhea)
- สาเหตุ: เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชนิด Neisseria gonorrhoeae ซึ่งเป็นเชื้อที่ติดต่อได้ผ่านการมีเพศสัมพันธ์โดยตรง เช่น การสัมผัสกับสารคัดหลั่งจากอวัยวะเพศที่มีการติดเชื้อ
- อาการ:
- มีหนองสีเหลืองหรือเขียวไหลออกจากท่อปัสสาวะหรือช่องคลอด
- รู้สึกเจ็บหรือแสบเวลาปัสสาวะ
- อวัยวะเพศบวม อักเสบ หรือมีรอยแดง
- การรักษา: ใช้ยาปฏิชีวนะ เช่น เซฟาโลสปอริน (Ceftriaxone) หรือยาที่แพทย์สั่งตามอาการ
หนองในเทียม (Nongonococcal Urethritis - NGU)
- สาเหตุ: เกิดจากเชื้อแบคทีเรียอื่นๆ เช่น Chlamydia trachomatis หรือเชื้ออื่นที่ไม่ใช่ Neisseria gonorrhoeae
- อาการ:
- อาการคล้ายกับหนองในแท้ เช่น มีอาการแสบเวลาปัสสาวะ หรือมีสารคัดหลั่ง แต่มักจะเบากว่าและไม่รุนแรงเท่า
- อาการบางครั้งอาจไม่มี (โดยเฉพาะในผู้หญิง)
- การรักษา: ใช้ยาปฏิชีวนะ เช่น อะซิโทรมัยซิน (Azithromycin) หรือดอกซีไซคลิน (Doxycycline)
ข้อสังเกตและความแตกต่าง:
- หนองในแท้มักมีความรุนแรงและแสดงอาการเด่นชัด ขณะที่หนองในเทียมบางครั้งอาจไม่แสดงอาการหรือมีอาการที่เป็นไปอย่างเงียบๆ ค่ะ
- การวินิจฉัยแยกโรคจำเป็นต้องได้รับการตรวจจากแพทย์ เช่น การเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งเพื่อหาชนิดของเชื้อ
หากคุณหรือคู่ของคุณสงสัยว่าติดเชื้อดังกล่าว แนะนำให้เข้าพบแพทย์โดยด่วนเพื่อการวินิจฉัยและรักษา เพราะหากปล่อยไว้ อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อน เช่น การอักเสบบริเวณอุ้งเชิงกรานในผู้หญิง หรือนำไปสู่ภาวะมีบุตรยากในระยะยาวค่ะ