ตุ่มที่เกิดจากโรคซิฟิลิสมีลักษณะอย่างไร?
โรคซิฟิลิสเป็นโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากแบคทีเรีย Treponema pallidum และสามารถแสดงอาการในหลายระยะ ซึ่งในระยะที่มีตุ่มหรือตัวแผลสามารถพบลักษณะเฉพาะดังนี้ค่ะ:
-
ระยะที่หนึ่ง (Primary syphilis):
- ตุ่มหรือแผลที่พบในระยะนี้มักเป็น “chancre” หรือแผลเปิดที่มีลักษณะกลม ขอบเรียบ และไม่นูน มีสีออกแดง
- มักไม่เจ็บและสามารถปรากฏที่บริเวณอวัยวะเพศ ปาก หรือบริเวณทวารหนักค่ะ
- โตขึ้นมักอยู่ประมาณ 3-6 สัปดาห์ก่อนที่จะหายไป หลายคนอาจไม่รู้สึกตัวในระยะนี้ค่ะ
-
ระยะที่สอง (Secondary syphilis):
- จะเริ่มมีตุ่มและผื่นกระจายทั่วร่างกาย รวมถึงที่ฝ่ามือและฝ่าเท้าด้วยค่ะ
- ตุ่มในระยะนี้มักนูนหรือแบน มีสีแดงหรือชมพูอ่อน และอาจมีอาการคันร่วมด้วยค่ะ
- อาจพบจุดสีขาวคล้ายน้ำครั่งในบริเวณเยื่อเมือก เช่น ปาก หรืออวัยวะเพศค่ะ
-
ระยะที่สาม (Tertiary syphilis):
- หากโรคดำเนินไประยะนี้ ตุ่มหรือเนื้อตายข้างในที่เรียกว่า “gummas” อาจเกิดขึ้นที่อวัยวะภายใน หรือนอกผิวหนังค่ะ
- ระยะนี้มักหายากในปัจจุบันเนื่องจากการเข้าถึงการรักษาที่เร็วขึ้นค่ะ
หากคุณสงสัยว่ามีอาการของโรคซิฟิลิสแนะนำให้ไปพบแพทย์หรือสถานพยาบาลเพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสมค่ะ การรักษาโดยเร็วจะช่วยลดการลุกลามและการแพร่เชื้อค่ะ