วิธีการตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

การตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มีวิธีการอย่างไรบ้าง?

การตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (Sexually Transmitted Infections หรือ STIs) สามารถทำได้หลายวิธีขึ้นอยู่กับชนิดของโรคและการแสดงอาการค่ะ โดยทั่วไป วิธีการตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จะรวมถึง:

  1. การซักประวัติและตรวจร่างกาย

    • แพทย์จะสอบถามเกี่ยวกับอาการ ความเสี่ยงในการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน และประวัติของคู่ชีวิต
    • การตรวจร่างกายโดยละเอียด อาจรวมถึงการตรวจบริเวณอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือช่องปากถ้าจำเป็น
  2. การเก็บตัวอย่างเพื่อการตรวจ

    • การตรวจปัสสาวะ: ใช้สำหรับตรวจหาเชื้อบางชนิด เช่น หนองในแท้หรือหนองในเทียม
    • การเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่ง: อาจเป็นน้ำเมือกจากช่องคลอดหรืออวัยวะเพศชาย หรือสารในบริเวณแผล
    • การตรวจเลือด: ใช้สำหรับตรวจโรคเช่น ซิฟิลิส, HIV, หรือไวรัสตับอักเสบ
    • การเก็บตัวอย่างผิวหนัง: กรณีที่มีตุ่มหรือผื่นที่สงสัยว่าเป็นโรค เช่น เริม
  3. การตรวจแบบพิเศษ

    • ในบางครั้งแพทย์อาจใช้เครื่องมือเฉพาะ เช่น การส่องกล้องภายในเพื่อดูผนังช่องคลอดหรือปากมดลูก
    • การทำ Polymerase Chain Reaction (PCR) ช่วยในการตรวจหาเชื้อที่แม่นยำสูง

สิ่งสำคัญคือ เมื่อสงสัยว่าตนเองอาจติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ควรปรึกษาแพทย์ทันทีและหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์จนกว่าจะทราบผลการตรวจและรับการรักษาค่ะ การป้องกัน เช่น การใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ จะช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างมากค่ะ