ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อเล็ก ปลายประสาทมาหลายวันแล้ว เริ่มปวดช่วงมีประจำเดือน (วันที่ 3 กค)ค่ะ แต่ความรู้สึกไม่ปวดเหมือนใช้งานหนักหรือตะคริวช่วงเป็นประจำเดือน แล้วก็ปวดสลับไปมา ปลายประสาทปวดเหมือนมีอะไรมาจิ้มที่มือกับเท้า อาทิตย์ที่แล้ว (9 ก.ค) ได้ยาจากเภสัชมาเป็น pregabalin 10 เม็ด กับ etoricoxib 6 เม็ดมา กินหมดทั้งสองแผงแล้วดีขึ้น แต่ยังไม่หายขาด ตอนนี้ที่หายมีแค่ปวดปลายประสาททั้งมือและเท้าค่ะ แต่ปวดกล้ามเนื้อกับข้อนิ้วมือยังมีอยู่ ช่วงเช้าตอนตื่นนอนแรกๆจะปวดตามบ้อนิ้วบ้าง กับตอนเย็นปวดตามข้อกับฝ่ามือแบบทำให้รู้สึกรำคาญค่ะ ปวดแบบใช้ชีวิตได้ปกติ ไม่มีข้อฝืดค่ะ บวม แดงค่ะ (เดือนที่แล้วตรวจเจอโควิดวันที่ 11 หาย 14 เป็นอาการของ long covid มั้ยคะ)
อาการที่คุณอธิบายมานั้นสามารถเกิดจากหลายสาเหตุค่ะ ซึ่งในกรณีของคุณ อาจเป็นผลกระทบจากภาวะ long COVID หรืออาการอื่นเช่นกลุ่มโรคอักเสบของข้อ (เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ หรือโรคข้อเสื่อม) หรืออาจเป็นเพียงปฏิกิริยาชั่วคราวจากภูมิคุ้มกันของร่างกายที่ยังไม่สมดุลหลังจากติดเชื้อโควิดค่ะ ลองพิจารณาข้อมูลต่อไปนี้เพื่อวิเคราะห์เพิ่มเติม:
-
เชื่อมโยงกับ long COVID:
- อาการปวดปลายประสาทและปวดกล้ามเนื้อเป็นอาการที่พบได้ในกลุ่มผู้ที่เคยป่วยโควิด อันเนื่องมาจากการอักเสบในระบบปลายประสาท (neuropathy) ที่อาจเป็นผลข้างเคียงจากการติดเชื้อ
- การฟื้นฟูจาก long COVID อาจใช้เวลานานหลายเดือน หากยังไม่พบการอักเสบรุนแรง การออกกำลังกายเบาๆ และการพักผ่อนอย่างเพียงพออาจช่วยฟื้นตัวได้ค่ะ
-
อาการเกี่ยวกับข้อและกล้ามเนื้อ:
- อาการปวดข้อช่วงเช้า โดยเฉพาะที่นิ้วมือ และปวดกล้ามเนื้อช่วงเย็น ดูเหมือนจะบ่งชี้ถึงสภาวะอักเสบในข้อหรือกล้ามเนื้อที่อาจไม่ได้สัมพันธ์กับ long COVID อย่างเดียว แต่ควรได้รับการตรวจเพิ่มเติมเพื่อตรวจสอบว่าเป็นโรคข้ออักเสบเรื้อรังหรือไม่
- หากเริ่มมีอาการบวม แดง หรือร้อนตามข้อ แนะนำให้รีบปรึกษาแพทย์ค่ะ
-
คำแนะนำเพิ่มเติม:
- การใช้ยา pregabalin ช่วยลดอาการปวดปลายประสาทได้ชัดเจน แต่อาการปวดตามข้อและกล้ามเนื้อที่ยังคงอยู่ อาจต้องการการประเมินเพิ่มเติมโดยเฉพาะผ่านการตรวจเลือด (เช่น ตรวจระดับสารอักเสบ) หรือเอกซเรย์ข้อ
- การพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคข้อหรือระบบประสาทอาจช่วยหาสาเหตุแท้จริงของอาการได้ค่ะ
สุดท้ายนี้ แนะนำให้สังเกตอาการต่ออย่างใกล้ชิด และบันทึกข้อมูลเพื่อแจ้งแพทย์ เช่น อาการแย่ลง หรือมีอาการอื่นเพิ่มเติม เช่น เหนื่อยง่ายผิดปกติ หรือผื่นขึ้น ขอให้คุณหายป่วยเร็วๆ นะคะ!
ตอนนี้มีป่วยทอนซิลอักเสบด้วย ช่วงที่มีไข้ มีปวดตัว แต่ไม่เหมือนอาการปวดแปลกๆที่เป็นอยู่แล้ว
จากข้อมูลที่คุณให้มาว่าในขณะนี้คุณมีอาการทอนซิลอักเสบร่วมด้วย อาจช่วยบ่งชี้ถึงสาเหตุเพิ่มเติมที่ทำให้อาการปวดตัวและข้อยังไม่ดีขึ้นค่ะ ต่อไปนี้เป็นการวิเคราะห์และแนวทางปฏิบัติเพิ่มเติมที่อาจช่วยให้คุณรับมือกับอาการนี้:
-
การเชื่อมโยงระหว่างทอนซิลอักเสบและอาการปวดตัว:
- ทอนซิลอักเสบเกิดจากการติดเชื้อ แบคทีเรีย (เช่น Streptococcus) หรือไวรัส ทำให้ร่างกายเกิดการอักเสบ และผลิตสารอักเสบมากขึ้น สารอักเสบนี้สามารถทำให้เกิดอาการปวดตัวและกล้ามเนื้อที่คุณรายงานไว้ได้ค่ะ
- นอกจากนี้ ในบางกรณี ทอนซิลอักเสบหรือการติดเชื้อจากแบคทีเรีย “Streptococcus” อาจทำให้เกิดภาวะ “post-streptococcal reactive arthritis” หรือข้ออักเสบหลังติดเชื้อ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับอาการที่คุณกำลังประสบอยู่ค่ะ
-
การแยกแยะอาการปวดตัว:
- อาการปวดจากไข้หรือการติดเชื้อ มักเกิดขึ้นทั่วตัวและสัมพันธ์กับการมีไข้ แต่หากมีอาการปวดแปลกๆ ในข้อ นิ้วมือ หรือปลายประสาทแบบที่ยังไม่ดีขึ้นหลังจากใช้ยา อาจบ่งบอกถึงภาวะที่ไม่เกี่ยวข้องกับวิตามินหรือสารอักเสบตามปกติ เช่น โรคไขข้ออักเสบ, หรือผลกระทบจาก long COVID ค่ะ
- การที่คุณมีอาการปวดเช้าและเย็นบ่งชี้ถึงความสัมพันธ์กับกิจกรรมของวัน แนะนำให้จดบันทึกลักษณะและระดับความปวด พร้อมพฤติกรรมที่ทำแล้วปวดเพิ่ม เช่น การกดน้ำหนักที่มือ หรือกิจกรรมที่ต้องใช้ข้อค่ะ
-
แนวทางปฏิบัติและดูแลตัวเอง:
- สำหรับทอนซิลอักเสบ ควรพักผ่อนให้ร่างกายฟื้นฟูตัวเอง ดื่มน้ำให้เพียงพอ และรับประทานยาลดไข้หรือแก้อักเสบที่แพทย์หรือเภสัชกรสั่งค่ะ
- หากอาการปวดข้อและกล้ามเนื้อยังคงอยู่ หรือรุนแรงขึ้น ควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยโดยละเอียด อาจต้องตรวจเลือดเพื่อดูการอักเสบในร่างกาย หรือการส่งต่อไปรักษาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านโรคข้อค่ะ
- การทำกายภาพบำบัด การยืดกล้ามเนื้อหรือพักกล้ามเนื้อเฉพาะจุดที่ปวดอาจบรรเทาอาการได้เช่นกันค่ะ
สุดท้าย อย่าลืมสังเกตว่าหากอาการทอนซิลอักเสบรุนแรงมากขึ้น หรือมีอาการอื่นๆ นอกเหนือจากที่รายงาน เช่น หายใจลำบาก กลืนลำบาก หรือไข้สูงนาน ไม่ควรรอช้า รีบพบแพทย์โดยด่วนค่ะ หายเร็วๆ นะคะ!