วัคซีนเด็ก ที่ต้องฉีดเอง มีอะไรบ้าง?
วัคซีนสำหรับเด็กที่ผู้ปกครองอาจต้องฉีดเอง (ไม่ได้รับในแผนวัคซีนมาตรฐานจากทางรัฐ) มักเป็นวัคซีนที่ทางโรงพยาบาลหรือคลินิกแนะนำเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันโรคค่ะ วัคซีนเหล่านี้ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่ม “วัคซีนเสริม” และจำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเอง รายการตัวอย่างวัคซีนที่แนะนำให้ฉีด ได้แก่:
-
วัคซีนป้องกันโรคโรต้าไวรัส (Rotavirus):
- ให้สำหรับป้องกันโรคอุจจาระร่วงรุนแรงที่เกิดจากไวรัสโรต้า
- มักให้ในรูปแบบวัคซีนแบบหยดทางปาก
- ฉีดในช่วงอายุ 2 เดือน, 4 เดือน และอาจมีเข็มเสริมที่ 6 เดือน (ขึ้นอยู่กับชนิดวัคซีน)
-
วัคซีนป้องกันโรคไอพีดี (IPD - Invasive Pneumococcal Disease):
- สำหรับป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ปอดอักเสบ หูอักเสบ
- ฉีดที่อายุ 2 เดือน, 4 เดือน, 6 เดือน และ 1 ขวบครึ่ง (18 เดือน)
-
วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่:
- ควรฉีดทุกปี เริ่มตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป
- ช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์รุนแรง
-
วัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบเอ (Hepatitis A):
- แนะนำฉีดในเด็กอายุประมาณ 1 ขวบครึ่งถึง 2 ขวบ
- มักให้ 2 ครั้ง ห่างกัน 6-12 เดือน
-
วัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส:
- ช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดอีสุกอีใส
- ฉีดในช่วงอายุ 1-2 ปี และเข็มกระตุ้นที่อายุ 4-6 ปี
-
วัคซีนป้องกันไวรัสเอชพีวี (HPV):
- โดยเฉพาะสำหรับเด็กหญิงอายุ 9-14 ปี (ในบางประเทศเริ่มฉีดในเด็กชายด้วย)
- ช่วยป้องกันมะเร็งปากมดลูกและโรคอื่นที่เกี่ยวข้องกับไวรัส HPV
การเลือกฉีดวัคซีนเสริมควรคำนึงถึงปัจจัยเสี่ยงในพื้นที่ที่อยู่ รวมถึงคำแนะนำจากแพทย์ค่ะ หากผู้ปกครองท่านใดสงสัยเกี่ยวกับวัคซีน ควรปรึกษาโรงพยาบาลหรือคลินิกเพื่อข้อมูลเพิ่มเติมและตารางเวลาที่เหมาะสมกับเด็ก ค่ะ