ไปเจาะเลือดตรวจHIVมาแล้วค่าเลือดขึ้น0.42ค่านี้คือค่าของอะไรแล้วทำไม่ค่านี้ถึงขึ้นๆลงๆแล้วคนเลือดปกติถ้าไปตรวจHIVค่านี้จะขึ้นไหมขึ้นเท่าไหร่แล้วค่านี้ใช่ค่าจำนวนของเชื้อไหม
ค่าเลือดที่ขึ้น 0.42 นั้นเป็นค่าที่มาจากการตรวจโดยการใช้เทคนิค ELISA หรือ EIA ในการตรวจ HIV ค่ะ โดยค่าที่แสดงผลนี้เรียกว่า “ค่าดัชนี” หรือ “index value” ซึ่งเป็นค่าที่ระบบตรวจวัดให้เพื่อประเมินว่าผลเลือดนั้นอยู่ในช่วงปกติหรือไม่ ค่าที่ขึ้นมาไม่ได้เป็นค่าที่บ่งบอกจำนวนของเชื้อ HIV โดยตรงค่ะ รายละเอียดเกี่ยวกับค่าเหล่านี้ มีดังนี้:
-
ผลค่าเลือด 0.42 หมายถึงอะไร?
ค่านี้เป็นค่าของการตอบสนองต่อแอนติบอดีที่เกี่ยวข้องกับ HIV ในร่างกาย ซึ่งค่าจะถูกนำมาเปรียบเทียบกับค่ามาตรฐานของการตรวจเพื่อประเมินผลค่ะ- ในการตรวจ ELISA ถ้าค่านี้ต่ำกว่าค่ามาตรฐาน (ปกติประมาณ 1.0 หรือขึ้นอยู่กับห้องแลปที่ทำการตรวจ) ผลจะถือว่า “ไม่พบเชื้อ HIV” ค่ะ
- แต่ในบางกรณีถ้าค่าใกล้เคียงหรือสูงกว่าค่ามาตรฐาน อาจต้องส่งตรวจเพิ่มเติมด้วยวิธีอื่น เช่น Western Blot หรือ PCR เพื่อยืนยันผลค่ะ
-
เหตุผลที่ค่าขึ้นๆ ลงๆ
ค่านี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น- ระยะเวลาตั้งแต่สัมผัสเชื้อ (ระยะ window period)
- สภาพร่างกายและระบบภูมิคุ้มกันของผู้ตรวจ
- ความไวและความแม่นยำของเครื่องตรวจในห้องแลปนั้น ๆ
การเปลี่ยนแปลงไม่ใช่เรื่องผิดปกติค่ะ และหากยังอยู่ในช่วงค่าต่ำกว่ามาตรฐาน โอกาสที่จะมีผลบวกปลอมยังมีค่ะ
-
คนเลือดปกติจะมีค่าดัชนีขึ้นหรือไม่
โดยทั่วไปคนที่ไม่ได้สัมผัสเชื้อ HIV ค่าจะต่ำกว่า 1.0 หรืออยู่ในช่วงค่าที่ถือว่า “ไม่พบเชื้อ” ค่ะ แต่บางครั้งอาจมีค่าดัชนีที่ขึ้นเล็กน้อย (เนื่องจากการปฏิกิริยาระหว่างโปรตีนในร่างกายกับสารเคมีที่ใช้ตรวจ) ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดปกติค่ะ
สรุปคือ ค่าดัชนีดังกล่าวไม่ได้บ่งบอกถึงจำนวนของเชื้อ HIV โดยตรงค่ะ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมหรือความกังวลเกี่ยวกับผลเลือด การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้มั่นใจได้มากขึ้นค่ะ