สวัสดีค่ะ พอดีเมื่อวันที่22กค.68ที่ผ่านมา หนูไปถอดยาฝังเข้มมาค่ะ แต่หนูไม่ได้กินยาคุมอะไรอีกเลย เเละมีอะไรกับแฟนอยู่ด้วย พอวันนี้ที่29กค.หมอไห้ยาคุมมาแต่ก่อนหน้านั้นไม่ได้คุมอะไรเลย มีโอกาสท้องไหมค่ะ
สวัสดีค่ะ จากข้อมูลที่ให้มา การถอดยาฝังคุมกำเนิดเมื่อวันที่ 22 ก.ค. แล้วมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้เริ่มการคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่น มีโอกาสตั้งครรภ์เกิดขึ้นได้ค่ะ เนื่องจาก:
-
ฤทธิ์ของยาฝังคุมกำเนิด
- เมื่อถอดยาฝังคุมกำเนิดออก ฤทธิ์ในการป้องกันการตั้งครรภ์จะหมดลงทันที
- รังไข่และระบบฮอร์โมนของร่างกายจะกลับมาทำงานตามปกติ ซึ่งอาจเกิดการตกไข่ได้ในเวลาอันรวดเร็ว
-
การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน
- หากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันหลังจากถอดยาฝัง โอกาสที่อสุจิจะไปผสมกับไข่ที่ตกออกมาแล้วมีการปฏิสนธิก็เป็นไปได้ค่ะ
-
การเริ่มใช้ยาคุมในภายหลัง
- แม้ว่าคุณหมอจะให้ยาคุมมาในภายหลัง แต่การเริ่มใช้ควรเป็นไปตามคำแนะนำ เช่น หากไม่ได้เริ่มทันทีหลังถอดยาฝัง อาจไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ในรอบนี้ค่ะ
ในกรณีนี้ หากต้องการทราบว่าตั้งครรภ์หรือไม่ แนะนำให้รอดูรอบเดือนว่ามาปกติหรือไม่ และหากรอบเดือนขาดไปเกินกว่า 1 สัปดาห์ ให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบปัสสาวะนะคะ (สามารถตรวจได้หลังจากวันมีเพศสัมพันธ์ 10-14 วัน) และควรปรึกษาแพทย์เพิ่มเติมหากมีความกังวลค่ะ
ขอให้โชคดีและดูแลสุขภาพด้วยนะคะ
เมื่อวานมีเป้นมูกๆออกน้ำตาลอ่อนๆ และวันนี่ก็ไม่มีอะไรเลย เมื่อวันก่อนมีเลือดออกแต่ออกแบบอมชมพู่มีเลือดบ่นนิดนึ่งค่ะ
อาการที่มีมูกสีน้ำตาลอ่อน และก่อนหน้านี้เคยมีเลือดออกสีชมพูอมแดงเล็กน้อยสามารถเป็นผลมาจากหลายปัจจัยค่ะ อาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นในช่วงที่ฮอร์โมนในร่างกายยังปรับตัวอยู่หลังจากถอดยาฝังคุมกำเนิด ซึ่งยังไม่สามารถบ่งชี้ได้ชัดเจนว่าเป็นการตั้งครรภ์หรือไม่ อย่างไรก็ตาม มาดูกันในจุดต่างๆ ที่เป็นไปได้ค่ะ:
-
การปลดเปลื้องฮอร์โมนจากการคุมกำเนิด
หลังจากการหยุดหรือถอดยาฝังคุมกำเนิด ฮอร์โมนในร่างกายอาจยังต้องการเวลาเพื่อปรับตัว ซึ่งอาจทำให้เกิดเลือดออกเล็กน้อยเป็นครั้งคราวตามที่คุณบอกว่ามีสีน้ำตาลอ่อนหรือชมพูอมแดงได้ค่ะ -
เลือดตกไข่
บางครั้ง การที่ร่างกายเริ่มเข้าสู่ภาวะตกไข่อีกครั้งหลังจากหยุดใช้ฮอร์โมนคุมกำเนิด อาจทำให้มีกระบวนการที่เรียกว่า “เลือดตกไข่” ซึ่งเป็นเลือดที่ออกมาปริมาณน้อยและมักไม่เกินไม่กี่วัน -
ภาวะตั้งครรภ์แรกเริ่ม
หากมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่ร่างกายเริ่มมีการตกไข่หรือภายในช่วงไข่ตก อาการเลือดสีชมพูอมแดงบางครั้งอาจเกิดจากการฝังตัวของตัวอ่อน (implantation bleeding) ในกรณีที่มีการตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตาม อาจต้องรอดูว่ามีอาการขาดประจำเดือนหรือไม่ และตรวจการตั้งครรภ์เพื่อยืนยันค่ะ
คำแนะนำ:
- หากยังไม่พร้อมที่จะตั้งครรภ์และกังวลเรื่องการป้องกัน แนะนำให้ใช้วิธีการคุมกำเนิดสำรอง เช่น ถุงยางอนามัยร่วมด้วยค่ะ
- หากมีประจำเดือนไม่ปกติหรือขาดประจำเดือนเกินกว่า 1 สัปดาห์ หรือยังมีอาการออกมูกและเลือดผิดปกติในลักษณะนี้เรื่อยๆ แนะนำให้พบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมค่ะ
- สามารถซื้อชุดตรวจการตั้งครรภ์เพื่อตรวจเบื้องต้นหลังจากวันมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 10-14 วันค่ะ
ดูแลสุขภาพนะคะ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม ยินดีให้คำปรึกษาค่ะ
แล้วถ้าถอดยาฝังเข้มมาแล้ว แต่ตังแต่ถอดมาไม่ได้กินยาคุมเลย7วัน มีโอกาสเป้นอะไรไหมค่
สวัสดีค่ะ หากถอดยาฝังคุมกำเนิดมาแล้วและไม่ได้ใช้ยาคุมหรือวิธีการคุมกำเนิดอื่นเพิ่มเติมในช่วง 7 วันที่ผ่านมา มีโอกาสเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์หรือเกิดผลกระทบอื่นๆ ได้ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยค่ะ ลองมาดูรายละเอียดกันนะคะ:
ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น:
-
โอกาสตั้งครรภ์:
- ยาฝังคุมกำเนิดมีฤทธิ์หยุดการตกไข่ในระหว่างที่ใส่อยู่ในร่างกาย แต่เมื่อถอดออกฮอร์โมนจะเริ่มลดลง ระบบการตกไข่อาจกลับทำงานได้เร็ว ซึ่งทำให้มีโอกาสตกไข่ภายในไม่กี่วันหลังถอด
- หากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ใช้การคุมกำเนิดเพิ่มเติมในช่วงนี้ ก็มีโอกาสที่ไข่ที่ตกใหม่จะถูกผสมกับสเปิร์มและเกิดการปฏิสนธิค่ะ
-
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและรอบเดือน:
- หลังจากถอดยาฝังคุมกำเนิด ฮอร์โมนในร่างกายต้องใช้เวลาปรับตัว ช่วงนี้อาจมีอาการเช่น ประจำเดือนมาไม่ปกติ มูกออกผิดปกติ หรือเลือดกะปริบกะปรอยเป็นครั้งคราว
- อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้เป็นผลที่เกิดขึ้นชั่วคราวโดยทั่วไปค่ะ
คำแนะนำ:
-
ตรวจสอบการตั้งครรภ์:
- หากกังวลเรื่องการตั้งครรภ์และประจำเดือนไม่มา ควรใช้ชุดตรวจปัสสาวะหลังจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ผ่านไปอย่างน้อย 10-14 วัน เพื่อให้ได้ผลที่แน่นอนค่ะ
- หากผลตรวจออกมาเป็นลบแต่ยังไม่มีประจำเดือน ควรรอและตรวจซ้ำอีกครั้งใน 1 สัปดาห์ค่ะ
-
เริ่มคุมกำเนิดใหม่ทันที:
- ควรเริ่มใช้วิธีการคุมกำเนิดใหม่ทันทีหากยังต้องการป้องกันการตั้งครรภ์ เช่น ยาคุมกำเนิด ถุงยางอนามัย หรือพิจารณาวิธีอื่นที่เหมาะสมกับสุขภาพของคุณค่ะ
- หากเริ่มใช้ยาคุมกำเนิดแบบเม็ดในช่วงที่ไม่ได้ป้องกันมาก่อน ควรใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยในช่วง 7 วันแรกหลังเริ่มยาคุมค่ะ
-
ปรึกษาแพทย์:
- หากมีอาการผิดปกติ เช่น ปวดท้องรุนแรง เลือดออกเยอะ หรืออาการที่สงสัยอื่นๆ แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมค่ะ
หวังว่าคำแนะนำนี้จะช่วยให้คุณดูแลสุขภาพได้อย่างรอบคอบนะคะ หากมีข้อสงสัยหรือกังวลเพิ่มเติม สามารถสอบถามมาได้เสมอค่ะ