สาเหตุและการรักษาอาการปวดเบ้าตาและปวดหัว

ปวดเบ้าตา ปวดหัว เกิดจากอะไรและควรรักษายังไง?

อาการปวดเบ้าตาและปวดหัวเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุค่ะ ซึ่งแต่ละสาเหตุอาจเกี่ยวข้องกับระบบประสาท, การใช้งานตา, หรือแม้กระทั่งปัญหาทางสุขภาพอื่น ๆ เช่น

สาเหตุทั่วไป:

  1. โรคตาล้า (Eye Strain): เกิดจากการใช้สายตานาน ๆ โดยไม่ได้พัก เช่น ดูจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มานานเกินไป
  2. ไมเกรน (Migraine): มีลักษณะปวดหัวที่อาจแผ่ไปถึงเบ้าตาหรือมีความไวต่อแสง
  3. ไซนัสอักเสบ (Sinusitis): อักเสบที่โพรงไซนัสทำให้ปวดที่บริเวณรอบตาและหน้าผาก
  4. ความดันตาสูง (Glaucoma): อาจทำให้ปวดหัวรุนแรงและมีอาการเบ้าตาปวดแน่น
  5. ปัญหากล้ามเนื้อตาล้า: เช่น ต้อกระจกหรือปัญหาการมองเห็นที่ไม่ได้รับการแก้ไข เช่น สายตาสั้นหรือยาว

วิธีรักษาเบื้องต้น:

  1. พักสายตา: ใช้หลัก 20-20-20 คือ ทุกๆ 20 นาที ให้มองที่ไกลออกไปในระยะ 20 ฟุตเป็นเวลา 20 วินาทีค่ะ
  2. การประคบ: ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นหรือเย็นประคบบริเวณรอบดวงตาเพื่อบรรเทาอาการ
  3. ปรับการทำงาน: หากใช้งานจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือ ควรปรับแสงหน้าจอให้อ่อนลงและนั่งในระยะที่เหมาะสม
  4. การพักผ่อน: นอนหลับให้เพียงพอและหลีกเลี่ยงความเครียด
  5. ยาแก้ปวดเบื้องต้น: เช่น พาราเซตามอลหรือไอบูโพรเฟน (แต่ควรปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์ก่อนใช้ยา)

หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน หรือมีอาการดังนี้: การมองเห็นพร่ามัว, คลื่นไส้อาเจียน, หรือปวดมากขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมค่ะ เพราะอาจเป็นสัญญาณของโรคที่ร้ายแรง เช่น เนื้องอกในสมอง หรือปัญหาความดันในสมองที่ผิดปกติค่ะ