มีเพศสัมพันธ์วันที่3ไม่ใช่ถุง ไม่แตกใน ทานยาคุมปรับฮอร์โมนมา5ปีปัจจุบันทานอยู่ตอนนี้ทานยาฆ่าเชื้อร่วมด้วยแล้ววันนี้หลังจากมีเพศสัมพันธ์1อาทิตย์มีน้ำใสๆสีแดงออกช่องคลอด เสี่ยงท้องไหม ไม่มีอาการใดๆนอกจากเลือดออก ตอนนี้ทานยาคุมอยู่เม็ดที่15
จากที่คุณกล่าวมา ขอสรุปเป็นข้อมูลและคำตอบดังนี้ค่ะ:
-
ความน่าจะเป็นของการตั้งครรภ์:
- การที่คุณรับประทานยาคุมกำเนิดอย่างสม่ำเสมอ และปัจจุบันอยู่ที่เม็ดที่ 15 นั้น ยาคุมการกำเนิดปกติจะมีประสิทธิภาพสูงเมื่อรับประทานตรงเวลา และต่อเนื่อง โดยมีโอกาสเกิดการตั้งครรภ์ได้น้อยมาก (ประมาณ 0.1%)
- อย่างไรก็ตาม การรับประทานยาฆ่าเชื้อบางชนิด เช่น Rifampin อาจลดประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิดได้ ดังนั้นแนะนำให้ตรวจสอบชนิดของยาฆ่าเชื้อที่คุณทานอยู่ค่ะ
- หากไม่แตกใน โอกาสของการตั้งครรภ์จะยิ่งลดลงไปอีกค่ะ
-
สาเหตุของน้ำใสสีแดงที่ออกจากช่องคลอด:
- น้ำใสสีแดงนั้นอาจเกิดจาก “เลือดออกระหว่างรอบเดือน” ซึ่งบางครั้งอาจเป็นผลกระทบจากการใช้ยาฮอร์โมน หรือจากการที่ร่างกายปรับสภาพในระหว่างการรับยาคุมกำเนิดค่ะ
- อาจเป็นอาการที่ไม่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์ หากน้ำใสสีแดงไม่มีลิ่มเลือดหรือปริมาณไม่มาก แต่หากเลือดนั้นมีลักษณะผิดปกติ เช่น มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ หรือมีอาการคัน หรือปวดร่วมด้วย ควรเข้ารับคำปรึกษาแพทย์ค่ะ
- การมียาฆ่าเชื้อร่วมในระหว่างการทานยาคุม อาจส่งผลให้ฮอร์โมนในร่างกายมีความเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยค่ะ
-
คำแนะนำเพิ่มเติม:
- เพื่อความแน่ใจ หากยังคงมีเลือดออกในระยะเวลาต่อเนื่อง หรือมีความกังวลเรื่องการตั้งครรภ์ แนะนำให้ซื้อชุดตรวจการตั้งครรภ์มาใช้เพื่อตรวจสอบค่ะ โดยชุดตรวจจะมีผลแม่นยำเมื่อทดสอบหลังมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 2 สัปดาห์ขึ้นไป
- ควรปรึกษาแพทย์ เรื่องการใช้ยาฆ่าเชื้อร่วมกับยาคุมกำเนิด เพราะบางตัวยาอาจลดประสิทธิภาพของยาคุมได้ค่ะ
- หากมีอาการอื่นร่วม เช่น ปวดท้อง เบื่ออาหาร หรือมีไข้ ควรรีบพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยเพิ่มเติมค่ะ
ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถสอบถามเพิ่มเติม หรือเข้ารับการตรวจกับแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและการดูแลโดยละเอียดนะคะค่ะ