สอบถามความเสี่ยงในการตั้งครรภ์และอาการเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์

มีเพศสัมพันธ์วันที่3ไม่ใช่ถุง ไม่แตกใน ทานยาคุมปรับฮอร์โมนมา5ปีปัจจุบันทานอยู่ตอนนี้ทานยาฆ่าเชื้อร่วมด้วยแล้ววันนี้หลังจากมีเพศสัมพันธ์1อาทิตย์วันนี้พึ่งมีน้ำใสๆสีแดงออกช่องคลอด เสี่ยงท้องไหม ไม่มีอาการใดๆนอกจากเลือดออก ตอนนี้ทานยาคุมอยู่เม็ดที่15ทานเลทบ้างแต่ไม่เกิน3ชั่วโมง เสี่ยงท้องไหม ถ้าตรวจครรภ์จะรู้เลยไหม

อ้างอิงจากข้อมูลที่คุณให้มา มีจุดสำคัญหลายประการที่ควรพิจารณาค่ะ:

  1. การใช้ยาคุมกำเนิดและความเสี่ยงในการตั้งครรภ์

    • การทานยาคุมกำเนิดต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลานานเช่น 5 ปี หากทานต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ค่อนข้างมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์สูงค่ะ (มากกว่า 99% ถ้าทานถูกต้องทุกวันในเวลาใกล้เคียงกัน)
    • การที่คุณทานเลท (ไม่เกิน 3 ชั่วโมง) ก็ยังอยู่ในระดับที่ยาคุมสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ส่งผลต่อความเสี่ยงในการตั้งครรภ์มากนักค่ะ
    • แต่หากการทานยาฆ่าเชื้อรวมอยู่ด้วย อาจมีบางชนิดของยาฆ่าเชื้อที่ลดประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิด โดยเฉพาะกลุ่มยา Rifampin และบางชนิดของ Rifamycin หากมีการใช้ยาชนิดนี้ควรปรึกษาแพทย์ค่ะ
  2. อาการเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์

    • น้ำใสปนสีแดงที่ออกจากช่องคลอดอาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น ผลข้างเคียงจากยาคุมกำเนิด (ประจำเดือนผิดปกติระหว่างรอบการเกิด หรือ breakthrough bleeding), การอักเสบของปากมดลูก, หรือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนค่ะ
    • หากไม่มีกลิ่นเหม็นหรืออาการปวดท้องร่วม หรืออาการอื่นๆเพิ่มเติม อาการอาจไม่ใช่สิ่งที่น่ากังวลค่ะ
    • อย่างไรก็ตาม หากอาการเลือดออกเป็นแบบต่อเนื่องหรือมีปริมาณเยอะ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติมค่ะ
  3. การตรวจครรภ์และความแม่นยำ

    • การตรวจครรภ์สามารถทำได้ตั้งแต่มีเพศสัมพันธ์ไปแล้วประมาณ 10-14 วันค่ะ หากใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ที่วัดจากระดับฮอร์โมน HCG ที่ปัสสาวะ
    • อย่างไรก็ตาม หากยังอยู่ในระยะไม่ถึง 10-14 วัน การตรวจอาจยังไม่เที่ยงตรงค่ะ แต่หากต้องการความแม่นยำสูงสุด การตรวจเลือดเพื่อวัดระดับ HCG ที่โรงพยาบาลอาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดค่ะ

โดยรวมจากข้อมูลที่คุณให้ ความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ถือว่าค่อนข้างต่ำค่ะ เนื่องจากคุณทานยาคุมกำเนิดต่อเนื่องอยู่ อย่างไรก็ตาม หากคุณกังวลหรือมีอาการผิดปกติควรปรึกษาแพทย์เพิ่มเติมค่ะ