ซิฟิลิส: สาเหตุและอาการของโรค

ซิฟิลิส อาการเกิดจากอะไร?

ซิฟิลิส (Syphilis) เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD) ที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียชนิด Treponema pallidum ค่ะ การแพร่เชื้อสามารถเกิดขึ้นผ่านการมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด ทวารหนัก หรือปาก รวมถึงการสัมผัสโดยตรงกับแผลที่เกิดจากโรคซิฟิลิส นอกจากนี้ แม่ที่มีเชื้อซิฟิลิสยังสามารถส่งต่อเชื้อให้ทารกในครรภ์ได้อีกด้วย โดยเรียกว่าการติดเชื้อแต่กำเนิดค่ะ

สาเหตุหลักของการเกิดซิฟิลิสมีดังนี้:

  1. การมีเพศสัมพันธ์ไม่ป้องกัน: การไม่มีการใช้ถุงยางอนามัยทำให้ง่ายต่อการแพร่เชื้อค่ะ
  2. การสัมผัสกับแผลซิฟิลิส: แผลที่เกิดจากการติดเชื้อมักจะไม่มีอาการเจ็บ แต่สามารถแพร่เชื้อได้ค่ะ
  3. การติดเชื้อแต่กำเนิด: ทารกในครรภ์ได้รับเชื้อผ่านทางสายรก หรือระหว่างคลอดค่ะ

อาการของโรคซิฟิลิสแบ่งเป็น 4 ระยะหลัก:

  1. ระยะแรก (Primary Stage): มีแผลเล็ก ๆ ที่เรียกว่า “แผลแข็ง” (Chancre) ซึ่งไม่เจ็บในบริเวณที่เชื้อเข้าสู่ร่างกาย เช่น อวัยวะเพศ ปาก หรือทวารหนักค่ะ
  2. ระยะที่สอง (Secondary Stage): ผู้ป่วยมักมีผื่นบนร่างกาย โดยเฉพาะที่ฝ่ามือและฝ่าเท้า อาจมีอาการไข้ เจ็บกล้ามเนื้อ และต่อมน้ำเหลืองโตควบคู่ค่ะ
  3. ระยะสงบ (Latent Stage): เชื้อยังคงอยู่ในร่างกายแต่ไม่มีอาการ หากไม่ได้รับการรักษา เชื้อจะพัฒนาเข้าสู่ระยะที่สี่ค่ะ
  4. ระยะที่สี่ (Tertiary Stage): ระยะนี้เป็นระยะที่อันตรายที่สุด อาจส่งผลต่ออวัยวะภายใน เช่น สมอง หัวใจ และหลอดเลือดค่ะ

ซิฟิลิสเป็นโรคร้ายแรงที่ควรได้รับการรักษาโดยเร็ว ด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะแพนิซิลิน (Penicillin) ซึ่งเป็นยาหลักในการรักษาโรคซิฟิลิสค่ะ หากสงสัยว่าตนเองมีความเสี่ยง ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจและรักษาโดยเร็วค่ะ