ซิฟิลิส อาการและวิธีรักษาเป็นอย่างไร?
ซิฟิลิส (Syphilis) เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งมีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรีย Treponema pallidum โดยโรคนี้สามารถเกิดเป็นระยะๆ และมีอาการที่แตกต่างกันในแต่ละระยะ ดังนี้ค่ะ:
อาการของซิฟิลิส
-
ระยะแรก (Primary syphilis)
- เกิดแผลเล็ก (Chancre) เป็นแผลกดไม่เจ็บ พบได้บริเวณอวัยวะเพศ ปาก หรือรอบๆ จุดที่รับเชื้อ
- แผลเหล่านี้จะหายเองใน 3-6 สัปดาห์
-
ระยะที่สอง (Secondary syphilis)
- มีผื่นขึ้นทั่วร่างกาย รวมถึงฝ่ามือและฝ่าเท้า
- มีไข้ เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต ปวดหัว หรืออาจมีอาการเหนื่อยล้า
- ระยะนี้อาจมีอาการที่หายไปและกลับมาใหม่
-
ระยะแฝง (Latent syphilis)
- ไม่มีอาการ แต่ยังคงมีเชื้อในร่างกาย
- หากไม่ได้รับการรักษา เชื้อสามารถอยู่ในร่างกายหลายปีและเข้าสู่ระยะท้าย
-
ระยะที่สี่หรือระยะท้าย (Tertiary syphilis)
- การทำลายระบบต่างๆ เช่น หัวใจ สมอง ระบบประสาท ตับ และกระดูก
- อาจนำไปสู่อาการร้ายแรง เช่น พิการ หรือเสียชีวิต
วิธีการรักษา
-
ซิฟิลิสสามารถรักษาได้โดยการใช้ยาปฏิชีวนะ
- ยาเพนิซิลลิน (Penicillin) โดยการฉีดยานี้เป็นวิธีการที่สำคัญที่สุด
- ในกรณีผู้แพ้เพนิซิลลิน อาจใช้ยาชนิดอื่น เช่น Doxycycline หรือ Azithromycin (แต่อาจพิจารณาตามแพทย์แนะนำ)
-
เพื่อป้องกันแพร่เชื้อ
- งดเพศสัมพันธ์จนกว่าการรักษาจะเสร็จสมบูรณ์
- คู่ครองทุกคนของผู้ป่วยควรได้รับการตรวจและรักษา
-
การติดตามผล
- หลังการรักษา แพทย์อาจแนะนำให้ตรวจเลือดเป็นระยะเพื่อยืนยันว่าเชื้อถูกกำจัดหมดแล้วค่ะ
หากสงสัยว่าตนหรือคนใกล้ชิดอาจติดเชื้อ แนะนำให้เข้าพบแพทย์เพื่อรับการตรวจและให้คำแนะนำที่เหมาะสมนะคะ อย่าลืมป้องกันตัวเองขณะมีสัมพันธ์ทางเพศด้วยการใช้ถุงยางอนามัยค่ะ!