การฉีดยาคุมเข็มที่ 2 หากประจำเดือนไม่มา

มีเพศสัมพันธ์หลั่งในทุกรอบวันหนึ่งๆหลายรอบจะท้องไม่ค่ะ

การที่มีเพศสัมพันธ์โดยที่หลั่งในทุกครั้งและในหนึ่งวันมีเพศสัมพันธ์หลายรอบ อาจมีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้ค่ะ ความเสี่ยงดังกล่าวขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ช่วงเวลาของรอบเดือน ระดับความสมบูรณ์ของสเปิร์ม และไข่ในร่างกายฝ่ายหญิง ดังนั้น เรามาวิเคราะห์ปัจจัยที่สำคัญกันค่ะ:

  1. ช่วงเวลาของรอบเดือน (Fertile Window):

    • หากการหลั่งในเกิดขึ้นในช่วงไข่ตก (ประมาณวันที่ 12-16 ของรอบเดือนปกติที่มีความยาว 28 วัน) จะเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์อย่างมากค่ะ
    • แต่หากเป็นช่วงอื่น ๆ ของรอบเดือน โอกาสตั้งครรภ์จะต่ำลง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีโอกาสนะคะ
  2. ความสมบูรณ์ของสเปิร์มและไข่:

    • การหลั่งในหลายครั้งในวันเดียวกันไม่จำเป็นต้องลดคุณภาพของสเปิร์มในทันที แต่ถ้าหลั่งในบ่อยมาก คุณภาพของสเปิร์มอาจลดลงเล็กน้อยค่ะ
    • สำหรับฝ่ายหญิง หากมีการตกไข่ในรอบเดือนนั้น ความเสี่ยงก็ยังคงมีอยู่สูงค่ะ
  3. การใช้วิธีคุมกำเนิด:

    • หากไม่มีการใช้วิธีคุมกำเนิด เช่น ถุงยางอนามัย ยาเม็ดคุมกำเนิด หรืออื่น ๆ โอกาสตั้งครรภ์ก็เพิ่มขึ้นค่ะ

หากคุณไม่พร้อมที่จะตั้งครรภ์ ควรพิจารณาวิธีคุมกำเนิดที่เหมาะสม เช่น การใช้ถุงยางอนามัย หรือปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมกับคุณค่ะ หากเพิ่มข้อสงสัย ใจเย็นและพูดคุยกับคู่ของคุณเพื่อหาวิธีป้องกันที่ดีที่สุดในอนาคตนะคะ

แต่่ถ้าฉีดยาคุมแล้วจะท้องไม่ค่ะ

ถ้าฉีดยาคุมกำเนิดแล้ว ความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์นั้นต่ำมากค่ะ โดยยาคุมกำเนิดชนิดฉีดถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงมากในการป้องกันการตั้งครรภ์ ถ้าได้รับการฉีดในระยะเวลาที่เหมาะสมและต่อเนื่อง โอกาสตั้งครรภ์จะน้อยกว่า 1% ค่ะ แต่ก็ยังมีปัจจัยบางข้อที่ควรพิจารณาเพิ่มเติม ได้แก่:

  1. การฉีดตรงเวลา: หากฉีดยาคุมถูกต้องตรงตามกำหนด เช่น ทุก 1 เดือน (กรณี Depo-subQ) หรือทุก 3 เดือน (กรณี Depo-Provera) โอกาสตั้งครรภ์จะลดลงเกือบเป็นศูนย์ค่ะ แต่หากลืมหรือเลื่อนการฉีด อาจเกิดความเสี่ยงขึ้นได้

  2. ช่วงเวลาหลังเริ่มฉีด: หากเป็นการฉีดยาคุมครั้งแรก ต้องรอให้ฮอร์โมนออกฤทธิ์เต็มที่ โดยปกติใช้เวลาประมาณ 7 วัน ดังนั้น ในช่วงนี้ควรใช้วิธีป้องกันเพิ่มเติม เช่น ถุงยางอนามัย ร่วมด้วยเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ค่ะ

  3. ผลกระทบจากยาอื่นหรือปัญหาสุขภาพ: ยาบางชนิดที่รบกวนประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิด เช่น ยาแก้ชัก หรือยาปฏิชีวนะบางชนิด อาจลดความสามารถของยาคุมได้ และหากมีปัญหาสุขภาพเฉพาะทาง ควรปรึกษาแพทย์ค่ะ

อย่างไรก็ตาม หากคุณปฏิบัติตามกำหนดการฉีดยาคุมกำเนิดอย่างเคร่งครัด ก็ไม่ต้องกังวลมากค่ะ แต่ในกรณีที่คุณสงสัยหรือกังวลว่าตนเองอาจตั้งครรภ์ เช่น มีอาการประจำเดือนขาดหรืออาการตั้งครรภ์ ควรตรวจด้วยชุดทดสอบการตั้งครรภ์หรือปรึกษาคุณหมอเพื่อความมั่นใจค่ะ

ถ้าประเดือนไม่มาสามารถฉีดเข้ม2ได้มั้ย

ถ้าประจำเดือนของคุณไม่มาและต้องการฉีดยาคุมเข็มที่ 2 ควรปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพของยาคุมค่ะ:

  1. เช็กการตั้งครรภ์ก่อน

    • การที่ประจำเดือนขาด อาจเกิดจากสาเหตุหลายประการ เช่น ผลข้างเคียงจากยาคุม ความเครียด หรือแม้แต่การตั้งครรภ์
    • เพื่อความแน่ใจ ควรใช้ชุดตรวจการตั้งครรภ์ (Pregnancy Test) ก่อนรับการฉีดเข็มที่ 2 หากผลออกมาเป็นลบและไม่มีความเสี่ยงตั้งครรภ์ สามารถดำเนินการฉีดต่อได้ค่ะ
  2. ปรึกษาแพทย์หรือผู้ให้บริการสุขภาพ

    • แม้ยาคุมเข็มมักมีผลข้างเคียงที่อาจทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ แต่เพื่อความมั่นใจ ควรให้แพทย์ทำการซักประวัติและประเมินความเหมาะสม
    • แพทย์อาจถามข้อมูลเพิ่มเติม เช่น ระยะเวลาที่ฉีดยาคุมเข็มแรกไปแล้ว หรือพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจนำไปสู่การตั้งครรภ์ค่ะ
  3. ปฏิบัติตัวหลังฉีดยาคุม

    • ถ้าแพทย์ยืนยันว่าคุณสามารถฉีดยาคุมเข็มที่ 2 ได้ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เช่น ใช้วิธีการป้องกันเพิ่มเติม (เช่น ถุงยางอนามัย) ในช่วง 7 วันแรกหลังการฉีด หากไม่มั่นใจในผลการป้องกันค่ะ
  4. สังเกตอาการผิดปกติ

    • หากมีอาการ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง หรืออาการที่อาจสัมพันธ์กับการตั้งครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์เร็วที่สุดค่ะ

สรุปคือ หากประจำเดือนไม่มา คุณยังสามารถฉีดยาคุมเข็มที่ 2 ได้ หากมั่นใจว่าไม่ตั้งครรภ์และปรึกษาแพทย์ก่อนค่ะ แต่แนะนำให้ติดตามประจำเดือนอย่างใกล้ชิดและปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์อย่างเคร่งครัดนะคะ :blush: