คำถามเกี่ยวกับอาการประจำเดือนผิดปกติและผลกระทบจากยาปรับฮอร์โมน

สวัสดีค่ะ อายุ28 ค่ะ
พอดีเป็นคนที่มีประจำเดือนที่ผิดปกติมานานมากแล้วค่ะ บางเดือนมาปกติ บางเดือนมามากเกือบครึ่งเดือน บางเดือนเป็นลิ่มเลือดเยอะมาก
ตัดสินใจไปพบแพทย์เฉพาะทางมาแล้วค่ะ
ก่อนไปพบคุณหมอซึ่งมีประจำเดือนอยู่เกือบ10วัน และลิ่มเลือกเยอะมาก จึงตัดสินใจไปพบคุณหมอ และเอกซเรย์พบว่าปากมดลูกหรือผนังมดลูกนี่แหละค่ะ หนาผิดปกติ จำไม่ได้แล้วค่ะที่คุณหมอบอก แหะๆ
คุณหมอแจ้งก่อนว่าอาจจะเป็นซีสต์ ให้ดูอาการก่อนเดือนนึง
และให้ยามาทาน ซึ่งมียาปรับฮอร์โมนด้วย
หลังพบคุณหมอกลับมา 3 วัน ประจำเดือนก็หมดพอดี
ก็ทานยาต่อตามที่คุณหมอจัดมาให้ ทานยาปรับฮอร์โมนต่อ ประจำเดือนหยุดไปประมาณ 5 วัน แล้วก็ดันมาอีกรอบค่ะ ตั้งแต่วันที่ 8 จนวันนี้วันที่ 18 ประจำเดือนก็ยังมาไม่มีท่าจะหยุดสักทีเลยค่ะ มาในปริมาณที่ปาณกลางปกติค่ะ ไม่มีลิ่มเลือด ไม่มาเยอะแบบรอบก่อนๆ แต่ก็ไม่น้อยลงไม่หมดสักทีค่ะ
อันนี้น่าจะเกี่ยวกับตัวยาด้วยมั้ยคะ หรือผิดปกติจนอันตรายมั้ยคะ T_T

การที่มีประจำเดือนผิดปกติในลักษณะที่คุณได้เล่ามานั้น (มาหลายวัน เกินปกติ ความหนาของผนังมดลูกผิดปกติ และตอนนี้ปริมาณเลือดที่ออกมาอยู่ในปริมาณปกติ แต่ไม่หยุด) อาจเกิดจากหลายสาเหตุค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณได้รับยาปรับฮอร์โมนจากคุณหมอ สาเหตุที่เกิดขึ้นอาจรวมถึง:

  1. ผลกระทบจากยาปรับฮอร์โมน: ยาประเภทนี้สามารถมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงวงจรประจำเดือน บางครั้งอาจทำให้ประจำเดือนมานานขึ้นหรือมาแบบไม่ปกติในระยะเริ่มต้นของการใช้ยา เพราะร่างกายของคุณยังปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนค่ะ
  2. ภาวะของผนังมดลูกหนาผิดปกติ: หากผนังมดลูกหนาขึ้น อาจทำให้เกิดการเจ็บป่วยในภาวะที่เรียกว่า endometrial hyperplasia ซึ่งอาจส่งผลในเรื่องการมีประจำเดือนผิดปกติมาได้นานขึ้นค่ะ
  3. ซีสต์หรือความผิดปกติอื่นๆ: การที่คุณเล่าถึงคุณหมอได้พบซีสต์ (หรือสงสัยว่าอาจมีซีสต์) อาจเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการแบบนี้ค่ะ

คำแนะนำเพิ่มเติม:

  • ติดต่อคุณหมอที่ดูแล: อาการที่ประจำเดือนยังคงมาไม่หยุดเป็นเวลานาน เช่นนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องแจ้งให้คุณหมอทราบ แม้ว่าปริมาณเลือดจะลดลง การมีเลือดออกนานเกินความปกติอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ เช่น ภาวะโลหิตจางค่ะ
  • สังเกตอาการเพิ่มเติม: หากมีอาการอื่นร่วม เช่น ปวดท้องมากผิดปกติ เจ็บปวดมดลูก หรือเวียนหัว อ่อนเพลีย ควรรีบพบแพทย์เพื่อประเมินเพิ่มเติมค่ะ
  • อย่าหยุดยาเอง: การหยุดยาหรือการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เกี่ยวกับยาควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของคุณหมอเท่านั้นค่ะ

สุดท้ายนี้ คุณทำได้ถูกต้องแล้วที่ไปพบแพทย์ตั้งแต่แรก และควรมีการติดตามผลต่อไป หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมหรือรู้สึกกังวล สามารถปรึกษาคุณหมอที่ดูแลในเคสของคุณเสมอค่ะ