ประจำเดือนมานานผิดปกติหลังใช้ยาหยุดประจำเดือน

ประจำเดือนมาเกิน10วัน 2เดือนที่กินยาหยุดประจำเดือนใช้ผลค้างเคียงไกมค่ะ

การที่ประจำเดือนมามากกว่า 10 วันต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังจากมีประวัติการใช้ยาหยุดประจำเดือน (เช่น ยาฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน หรือฮอร์โมนผสมสำหรับเลื่อนประจำเดือน) อาจเกิดจากผลข้างเคียงของยาได้ค่ะ เนื่องจากยากลุ่มนี้มีผลต่อสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย ทำให้รอบเดือนผิดปกติชั่วคราวได้ โดยอาจส่งผลในหลายลักษณะ เช่น

  • ประจำเดือนมาช้าหรือเร็ว
  • ประจำเดือนออกต่อเนื่องนานกว่าปกติ
  • เลือดออกกะปริดกะปรอย (spotting) ระหว่างรอบ
  • ปริมาณเลือดมากหรือน้อยผิดปกติค่ะ

สาเหตุที่อาจทำให้เลือดออกนาน ได้แก่

  1. ผลจากการหยุดยาฮอร์โมน – เมื่อหยุดยา ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนในร่างกายเปลี่ยนแปลงเร็ว ทำให้เยื่อบุมดลูกหลุดออกไม่สม่ำเสมอ
  2. การตั้งครรภ์หรือภาวะแทรกซ้อน – ในบางกรณี หากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน อาจต้องตรวจปัสสาวะหรือเลือดเพื่อยืนยัน
  3. ภาวะทางนรีเวช – เช่น ซีสต์รังไข่ เนื้องอกมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวหรือผิดปกติ
  4. ปัญหาการแข็งตัวของเลือด – หากเลือดหยุดยาก หรือมีเลือดออกผิดปกติที่ส่วนอื่นของร่างกายร่วมด้วยค่ะ

แนะนำให้

  • จดบันทึกวันที่และปริมาณเลือดที่ออก, ลักษณะเลือด (สี, ลิ่มเลือด)
  • พบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจอัลตราซาวด์และตรวจเลือด เช็คฮอร์โมนและภาวะซีด
  • หากมีอาการเวียนศีรษะ หน้ามืด เหนื่อยง่าย ซีด หรือเลือดออกมากจนต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 1-2 ชั่วโมง ควรไปพบแพทย์ฉุกเฉินทันทีค่ะ

ถ้าต้องการ ฉันสามารถอธิบาย ว่าต้องหยุดใช้ยาหรือปรับฮอร์โมนอย่างไรเพื่อลดอาการเลือดออกยืดเยื้อ ให้ปลอดภัยขึ้นได้ค่ะ สนใจให้แนะนำต่อไหมคะ?