ถ้าค่าตับผิดปกติ ควรตรวจหาไวรัสตับอักเสบ A, B, C ด้วยไหม
ถ้าผลตรวจเลือดพบว่าค่าการทำงานของตับ เช่น AST (SGOT), ALT (SGPT) หรือค่าอื่น ๆ สูงผิดปกติ แพทย์มักจะแนะนำให้หาสาเหตุเพิ่มเติมค่ะ หนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ค่าตับสูง คือการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ A, B และ C ดังนั้นการตรวจหาเชื้อไวรัสเหล่านี้จึงมักเป็นขั้นตอนที่เหมาะสมและจำเป็น โดยเฉพาะถ้าไม่มีประวัติการดื่มแอลกอฮอล์มาก หรือไม่มีโรคตับจากสาเหตุอื่นที่ชัดเจนค่ะ
เหตุผลที่ควรพิจารณาตรวจหาไวรัสตับอักเสบ ได้แก่
- ไวรัสตับอักเสบ A: มักติดต่อจากการรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำปนเปื้อน มักเป็นแบบเฉียบพลัน ไม่เรื้อรัง แต่ถ้าติดไว้ก็ทำให้ค่าตับสูงมากช่วงระยะสั้นค่ะ
- ไวรัสตับอักเสบ B: ติดต่อจากเลือด เพศสัมพันธ์ หรือจากแม่สู่ลูก สามารถเป็นเรื้อรัง ทำให้เกิดตับแข็งหรือมะเร็งตับได้
- ไวรัสตับอักเสบ C: ติดต่อทางเลือดและมีโอกาสเป็นเรื้อรังสูง ค่อย ๆ ทำลายตับไปเรื่อย ๆ จนเกิดภาวะตับแข็งค่ะ
สรุปคือ หากค่าตับผิดปกติ โดยไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด แพทย์มักจะสั่งตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบ A, B และ C ร่วมกับการตรวจอื่น ๆ เช่น อัลตราซาวด์ตับ การตรวจไขมันในเลือด น้ำตาล และการใช้ยาบางชนิดค่ะ เพราะการวินิจฉัยไวตั้งแต่ระยะแรก จะทำให้สามารถรักษาและป้องกันภาวะแทรกซ้อนของตับในอนาคตได้ค่ะ