การตรวจภูมิแพ้อาหารแฝง เหมาะกับใครและควรตรวจเมื่อไหร่

การตรวจภูมิแพ้อาหารแฝงมีประโยชน์กับคนทั่วไป หรือเหมาะกับคนที่มีอาการเท่านั้น

การตรวจภูมิแพ้อาหารแฝง (Food Intolerance Test หรือการตรวจ IgG Food Sensitivity) มีจุดมุ่งหมายเพื่อค้นหาว่าอาหารชนิดใดอาจก่อให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์แบบเรื้อรังในร่างกาย เช่น อาการท้องอืด ปวดท้อง ผิวหนังอักเสบ ปวดศีรษะ หรืออ่อนเพลียเรื้อรังค่ะ อย่างไรก็ตาม การตรวจนี้ไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน แต่จะมีประโยชน์มากกว่าในผู้ที่มีอาการหรือปัญหาสุขภาพบางอย่างที่หาสาเหตุชัดเจนไม่ได้

ผู้ที่เหมาะกับการตรวจ ได้แก่

  • ผู้ที่มีอาการทางระบบทางเดินอาหารเรื้อรัง เช่น ปวดท้องบ่อย ท้องอืด ท้องเสีย หรือท้องผูกโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • ผู้ที่มีผื่นแพ้หรือผิวหนังอักเสบซ้ำๆ
  • ผู้ที่มีอาการปวดศีรษะเรื้อรังหรือไมเกรนที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาทั่วไป
  • ผู้ที่มีอาการอักเสบเรื้อรัง หรือผู้ที่สงสัยว่าอาหารบางชนิดมีผลต่อสุขภาพโดยตรง

ข้อควรเข้าใจเพิ่มเติม

  • สำหรับคนทั่วไปที่ไม่มีอาการ การตรวจนี้อาจไม่จำเป็นและไม่ถือเป็นการตรวจสุขภาพประจำปีมาตรฐานคร่ะ เพราะบางค่าที่ได้อาจบอกถึงการสัมผัสอาหารมากกว่าแพ้จริง ทำให้เกิดการตีความผิดและงดอาหารที่เกิดประโยชน์โดยไม่จำเป็น
  • การตรวจภูมิแพ้อาหารแฝงไม่ได้ใช้ยืนยันการแพ้อาหารชนิดรุนแรง (IgE-mediated food allergy) เช่น แพ้ถั่ว แพ้กุ้งแบบเฉียบพลัน ซึ่งมีการตรวจอีกแบบที่แม่นยำกว่า
  • ผลการตรวจควรนำมาประกอบกับประวัติทางการแพทย์และการวิเคราะห์โดยแพทย์หรือนักโภชนาการ เพื่อให้คำแนะนำการปรับอาหารที่เหมาะสมค่ะ

ดังนั้น ถ้าคุณไม่มีอาการผิดปกติ การตรวจภูมิแพ้อาหารแฝงอาจไม่ใช่สิ่งจำเป็นในตอนนี้ แต่ถ้ามีอาการเรื้อรังที่หาสาเหตุไม่ได้ การตรวจร่วมกับประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้ได้แนวทางการดูแลที่เหมาะสมค่ะ