การตรวจภาวะมีบุตรยากในผู้ชายและผู้หญิง และความแตกต่างของการตรวจ

การตรวจภาวะมีบุตรยากสำหรับผู้ชายและผู้หญิง ต้องตรวจอะไรบ้างและต่างกันอย่างไร

สำหรับการตรวจภาวะมีบุตรยาก จะมีความแตกต่างกันในผู้ชายและผู้หญิง เนื่องจากโครงสร้างและหน้าที่ของระบบสืบพันธุ์ต่างกันค่ะ

การตรวจในผู้ชาย

  • การซักประวัติและตรวจร่างกายทั่วไป เช่น ประวัติโรคประจำตัว การผ่าตัด การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ การใช้ยา หรือพฤติกรรมเสี่ยงค่ะ
  • การตรวจน้ำอสุจิ (Semen analysis) เพื่อตรวจจำนวน การเคลื่อนไหว และรูปร่างของอสุจิ เป็นการประเมินความสามารถในการผสมพันธุ์ค่ะ
  • การตรวจฮอร์โมน เช่น Testosterone, FSH, LH เพื่อดูการทำงานของอัณฑะและต่อมใต้สมองค่ะ
  • การตรวจหาการอุดตันของท่อส่งอสุจิ อาจใช้การอัลตราซาวด์หรือภาพวินิจฉัยอื่น ๆ ค่ะ
  • การตรวจพันธุกรรมหรือโครโมโซม หากสงสัยปัญหามาจากความผิดปกติทางพันธุกรรมค่ะ

การตรวจในผู้หญิง

  • การซักประวัติและตรวจร่างกาย รวมถึงประวัติรอบเดือน ความสม่ำเสมอของการตกไข่ โรคประจำตัว การตั้งครรภ์หรือแท้งบุตรในอดีตค่ะ
  • การตรวจฮอร์โมน เช่น FSH, LH, Estradiol, Progesterone, Prolactin และ Thyroid hormone เพื่อประเมินการตกไข่และสมดุลฮอร์โมนค่ะ
  • การตรวจโครงสร้างอวัยวะสืบพันธุ์ โดยอัลตราซาวด์ทางช่องคลอด เพื่อดูรังไข่ มดลูก และเยื่อบุโพรงมดลูกค่ะ
  • การตรวจท่อนำไข่และโพรงมดลูก เช่น HSG (Hysterosalpingogram) หรือ Hysteroscopy เพื่อดูว่ามีการอุดตันหรือความผิดปกติหรือไม่ค่ะ
  • การตรวจภาวะการตกไข่ อาจใช้การตรวจเลือดหรือการติดตามไข่ด้วยอัลตราซาวด์ค่ะ

สรุปคือ ผู้ชายจะเน้นตรวจน้ำอสุจิและฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างอสุจิ ส่วนผู้หญิงจะเน้นการตรวจการตกไข่ ฮอร์โมน และความสมบูรณ์ของอวัยวะสืบพันธุ์ค่ะ การตรวจครบทั้งสองฝ่ายจะช่วยหาสาเหตุได้แม่นยำและเลือกแนวทางรักษาได้เหมาะสมค่ะ