การผ่าตัดบายพาสหัวใจทำเมื่อไหร่
การผ่าตัดบายพาสหัวใจ (Coronary Artery Bypass Grafting, CABG) จะทำเมื่อหลอดเลือดหัวใจมีการตีบหรืออุดตันจนเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจไม่เพียงพอ และการรักษาวิธีอื่นอย่างการใช้ยา หรือการขยายหลอดเลือดด้วยบอลลูน–ใส่ขดลวด (angioplasty + stent) ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ค่ะ โดยข้อบ่งชี้หลัก ๆ ได้แก่
- มีการตีบหรืออุดตันรุนแรงในหลอดเลือดหัวใจหลายเส้น (เช่น หลายกิ่งมากกว่า 2–3 เส้น)
- การตีบในตำแหน่ง Left Main Coronary Artery (หลอดเลือดหลักของหัวใจ) ซึ่งจะมีความเสี่ยงสูงหากปล่อยไว้
- การทำบอลลูนไม่สำเร็จ หรือไม่เหมาะสมเนื่องจากลักษณะการตีบ เช่น ตีบยาวหรือหินปูนเกาะหนาค่ะ
- ผู้ป่วยมีอาการเจ็บหน้าอกมาก (angina) แม้จะได้รับการรักษาด้วยยาหรือการขยายหลอดเลือดแล้ว
นอกจากนี้ แพทย์อาจพิจารณาผ่าตัดในกรณีที่หัวใจบีบตัวได้ไม่ดีและมีปัญหาการไหลเวียนเลือดรุนแรง หรือในกรณีหัวใจวายเฉียบพลันแต่ไม่สามารถทำหัตถการฉุกเฉินอื่นได้ทันเวลา การผ่าตัดบายพาสจะใช้เส้นเลือดจากส่วนอื่นของร่างกาย เช่น เส้นเลือดจากขา (saphenous vein) หรือเส้นเลือดภายในทรวงอก (internal mammary artery) มาเย็บต่อข้ามตำแหน่งตีบ เพื่อให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจได้เพียงพอค่ะ
โดยสรุป การตัดสินใจผ่าตัดบายพาสหัวใจขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อาการของผู้ป่วย ผลตรวจหลอดเลือดหัวใจ การทำงานของหัวใจโดยรวม และความเสี่ยงจากโรคร่วมอื่น ๆ แพทย์เฉพาะทางโรคหัวใจและศัลยแพทย์หัวใจจะเป็นผู้ประเมินอย่างรอบคอบ เพราะแม้ว่าการผ่าตัดจะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตและยืดอายุได้ แต่ก็มีความเสี่ยงที่ต้องพิจารณาร่วมกันค่ะ