การกินยาเคลือบกระเพาะบ่อยๆ มีผลเสียไหม
การกินยาเคลือบกระเพาะบ่อยๆ อาจมีผลเสียได้ ขึ้นอยู่กับชนิดของตัวยาและระยะเวลาที่รับประทานค่ะ ยาเคลือบกระเพาะส่วนใหญ่ เช่น sucralfate, aluminum hydroxide, magnesium hydroxide หรือยาลดกรดชนิดอื่นๆ ออกฤทธิ์โดยการเคลือบเยื่อบุกระเพาะและลดการระคายเคือง ซึ่งสามารถช่วยบรรเทาอาการได้ดีในช่วงสั้นๆ แต่หากใช้ต่อเนื่องโดยไม่จำเป็นอาจมีความเสี่ยงดังนี้ค่ะ
- รบกวนการดูดซึมยาและสารอาหารบางชนิด เช่น ธาตุเหล็ก วิตามินบี12 ยาบางประเภททำให้ประสิทธิภาพลดลง
- ผลข้างเคียงต่อระบบขับถ่าย บางชนิดทำให้ท้องผูก (กลุ่มที่มีอะลูมิเนียม) หรือท้องเสีย (กลุ่มที่มีแมกนีเซียม)
- สะสมของแร่ธาตุในร่างกาย หากใช้เป็นเวลานาน โดยเฉพาะในผู้ป่วยไตเรื้อรัง อาจเกิดการสะสมของอะลูมิเนียมและแมกนีเซียมจนเกิดปัญหาสุขภาพ
- บดบังอาการของโรคที่ร้ายแรงกว่า เช่น แผลในกระเพาะ ลำไส้ หรือมะเร็งกระเพาะอาหาร เพราะอาการจะบรรเทาลงชั่วคราว ทำให้วินิจฉัยช้า
โดยทั่วไป แนะนำให้ใช้ยาเคลือบกระเพาะเฉพาะเวลามีอาการหรือเมื่อแพทย์สั่ง และควรหาสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวดหรือแสบท้อง เช่น ภาวกรดไหลย้อน แผลในกระเพาะ หรือการติดเชื้อ H. pylori เมื่อรักษาสาเหตุได้แล้ว อาจไม่จำเป็นต้องกินยานี้บ่อยๆ ค่ะ
ถ้าคุณมีอาการปวดท้องเรื้อรัง แสบท้อง หรืออาหารไม่ย่อยนานเกิน 1-2 สัปดาห์ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดก่อนใช้ยาเคลือบกระเพาะทุกวันนะคะ และถ้าจำเป็นต้องใช้ต่อเนื่อง ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์เพื่อลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงค่ะ