ถ้ามีอาการปวดเอวด้านหลัง อาจเป็นโรคไตหรือกล้ามเนื้ออักเสบ
อาการปวดเอวด้านหลังสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ โดยสาเหตุที่พบได้บ่อยจะเป็นทั้งจากระบบกล้ามเนื้อ-กระดูก และจากความผิดปกติของไตค่ะ
ความแตกต่างระหว่างโรคไตกับกล้ามเนื้ออักเสบ
- กล้ามเนื้อหลังหรือเอวอักเสบ/ตึงตัว: มักมีอาการปวดเมื่อยหรือเจ็บเฉพาะจุด ขยับตัวหรือเปลี่ยนท่าจะรู้สึกปวดมากขึ้น อาจเกิดจากการยกของหนัก การนั่งนาน หรือการออกกำลังกายหักโหม พักแล้วหรือประคบร้อน-นวดเบาๆ อาจดีขึ้นภายในไม่กี่วันค่ะ
- ปัญหาเกี่ยวกับไต เช่น กรวยไตอักเสบ นิ่วในไต หรือไตติดเชื้อ: อาการปวดมักอยู่บริเวณเอวลึกๆ ใกล้ชายโครงด้านหลัง และปวดตลอดเวลา ไม่ค่อยดีขึ้นเมื่อเปลี่ยนท่า อาจมีอาการร่วม เช่น ปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะบ่อยหรือมีเลือดปน มีไข้ หนาวสั่น หรือบวมที่หน้าและขา
ข้อควรสังเกตและคำแนะนำ
- หากปวดเอวร่วมกับ ไข้สูง หนาวสั่น ปัสสาวะขัด มีเลือดหรือกลิ่นผิดปกติในปัสสาวะ ควรไปพบแพทย์โดยเร็วเพื่อตรวจเลือดและปัสสาวะ เพราะอาจบ่งถึงการติดเชื้อในไตหรือทางเดินปัสสาวะค่ะ
- หากปวดเกิดหลังจากทำงานยกของหนักหรืออยู่ในท่าเดิมนานๆ ไม่มีอาการอื่นร่วม อาจพัก ประคบร้อน ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ และสังเกตอาการ 2–3 วัน แต่ถ้าไม่ดีขึ้นหรือปวดมาก ควรพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมค่ะ
- อาการปวดเอวที่เรื้อรังเป็นสัปดาห์หรือเดือน อาจเกี่ยวข้องกับกระดูกสันหลังหรือหมอนรองกระดูก ควรได้รับการวินิจฉัยโดยแพทย์เช่นกันค่ะ
ถ้าต้องการ ฉันสามารถช่วยออกแบบ ตารางสังเกตอาการ 3 วัน เพื่อประเมินว่าเป็นลักษณะใกล้เคียงโรคไตหรือกล้ามเนื้ออักเสบมากกว่ากันได้นะคะ คุณสนใจให้ทำให้ไหมคะ?