ถ้ามีอาการผิวหนังเป็นผื่นน้ำเหลืองเยิ้ม ควรทำอย่างไร
หากมีอาการผิวหนังเป็นผื่นน้ำเหลืองเยิ้ม ควรสันนิษฐานว่าอาจมีการติดเชื้อหรือการอักเสบร่วมด้วยค่ะ อาการลักษณะนี้มักเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ผื่นภูมิแพ้ผิวหนังที่มีการติดเชื้อซ้ำ (eczema infected), แผลถลอกหรือแมลงกัดต่อยที่มีการติดเชื้อแบคทีเรีย, โรคผิวหนังบางชนิดอย่างงูสวัด หรือแม้แต่การแพ้สารเคมีหรือยา ควรรีบดูแลตั้งแต่ต้นเพื่อลดความเสี่ยงการลุกลามค่ะ
แนวทางการดูแลเบื้องต้นมีดังนี้ค่ะ
- ทำความสะอาดแผลเบา ๆ ด้วยน้ำเกลือปราศจากเชื้อ (normal saline) หรือสบู่สูตรอ่อน เพื่อขจัดสิ่งสกปรกและลดการสะสมของเชื้อโรคค่ะ
- ซับให้แห้ง ด้วยผ้าสะอาด ไม่ควรถูแรง เพราะจะระคายเคืองผิวหนังและทำให้น้ำเหลืองซึมเพิ่มค่ะ
- ปิดแผลด้วยผ้าก๊อซสะอาด หากตำแหน่งแผลมีการเสียดสีกับเสื้อผ้าหรือมีการขีดข่วน เพื่อป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่แผลค่ะ
- หลีกเลี่ยงการเกา เพราะจะทำให้การติดเชื้อแย่ลง และน้ำเหลืองไหลมากขึ้นค่ะ
- อาจใช้ครีมต้านเชื้อแบคทีเรียชนิดทาภายนอก (เช่น Mupirocin) ตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกรค่ะ
ควรไปพบแพทย์หากมีอาการดังนี้: น้ำเหลืองไหลต่อเนื่องหรือมีหนอง, บวม แดง ร้อนมากขึ้น, มีไข้, ผื่นลุกลามไปบริเวณอื่น หรือเจ็บปวดมากขึ้นค่ะ แพทย์อาจให้ยาปฏิชีวนะชนิดทา หรือชนิดรับประทาน รวมถึงตรวจหาสาเหตุเฉพาะของผื่นเพื่อรักษาให้ตรงจุดค่ะ การหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น เช่น สารเคมีรุนแรง หรือการสัมผัสฝุ่น ควบคู่การดูแลผิวให้ชุ่มชื้น จะช่วยให้การฟื้นตัวเร็วขึ้นค่ะ