พี่คะ! จะทำไงให้เตี้ยลงคะ คือหนูไม่รู้ว่าหนูสูงตามเกณฑ์รึเปล่า แต่หนูสูง154 อายุ10 ซึ่งหนูรู้สึกว่าหนูยังเด็กอยู่ แต่หนูสูงตั้ง154เลย ช่วยด้วยค่ะ หนูควรจะสูงขึ้นไหมหรือควรจะเตี้ยลง?
ก่อนอื่นพี่อยากบอกก่อนนะคะว่าความสูง 154 เซนติเมตร สำหรับอายุ 10 ปีถือว่าสูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ยของเด็กผู้หญิงในวัยเดียวกันเล็กน้อยค่ะ (โดยเฉลี่ยเด็กผู้หญิงอายุ 10 ปีจะสูงประมาณ 138–144 เซนติเมตร) เพราะแต่ละคนมีพันธุกรรมและช่วงการเจริญเติบโตต่างกัน จึงไม่ถือว่าผิดปกติอะไรค่ะ
เรื่อง “ทำให้เตี้ยลง” จริง ๆ แล้วไม่มีวิธีทำให้ความสูงลดลงอย่างปลอดภัยนะคะ ความสูงเป็นผลมาจากพันธุกรรม (ยีนจากพ่อแม่) และฮอร์โมนการเจริญเติบโต การที่เราสูงเร็วในช่วงนี้อาจหมายความว่าร่างกายของเรากำลังมีการเข้าสู่ช่วงพัฒนาวัยรุ่นเร็วกว่าบางคน แต่หลังจากนี้ความสูงอาจเพิ่มขึ้นช้าลงเมื่อกระดูกเริ่มปิดค่ะ
สิ่งที่ควรทำคือ
- ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เช่น กินอาหารครบ 5 หมู่ ดื่มนม ออกกำลังกาย
- ตรวจสุขภาพกับกุมารแพทย์ เพื่อดูว่าอัตราการเติบโตเป็นปกติหรือไม่ (หมออาจดูกราฟการเจริญเติบโตและเอ็กซ์เรย์มือเพื่อตรวจความอายุของกระดูก)
- เข้าใจว่าความสูงไม่ใช่ปัญหา ความแตกต่างทำให้เราเป็นตัวของตัวเองและจะไม่สูงเกินไปจนผิดปกติถ้าดูแลสุขภาพและตรวจตามเกณฑ์ค่ะ
ถ้าหนูรู้สึกไม่มั่นใจ พี่แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่พาไปปรึกษาหมอเพื่อสอบถามข้อมูลที่อ้างอิงตามร่างกายจริงของหนูนะคะ จะได้มั่นใจว่าหนูกำลังเติบโตอย่างแข็งแรงและปลอดภัยค่ะ
งั้นแปลว่าหนูควรจะสูงขึ้นไหมคะ?
จริง ๆ แล้วร่างกายของหนูยังอยู่ในวัยที่กำลังเติบโตนะคะ เพราะเด็กหญิงส่วนมากจะหยุดสูงจริง ๆ ตอนอายุประมาณ 15–17 ปีขึ้นอยู่กับพันธุกรรมและการเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ ดังนั้น การที่ตอนนี้หนูสูง 154 เซนติเมตร ถือว่าเร็วกว่าเพื่อนบางคน แต่ยังมีโอกาสสูงขึ้นได้อีกค่ะ เพียงแต่ความสูงจะค่อย ๆ ช้าลงเมื่อโตขึ้นและกระดูกปิดค่ะ
สิ่งสำคัญคือดู 3 ปัจจัยหลัก:
- พันธุกรรม: ถ้าพ่อแม่สูง หนูก็มีโอกาสสูงมากขึ้นค่ะ
- โภชนาการ: กินอาหารให้ครบหมู่ โปรตีน นม ผักผลไม้ จะช่วยให้การเจริญเติบโตสมบูรณ์
- ฮอร์โมนและสุขภาพทั่วไป: ถ้าร่างกายแข็งแรง ฮอร์โมนปกติ ก็จะเติบโตอย่างเหมาะสมตามวัยค่ะ
สรุปคือ หนูไม่จำเป็นต้องชะลอหรือหยุดสูงนะคะ เพราะความสูงเป็นเรื่องธรรมชาติ และการที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยตอนอายุ 10 ปีไม่ได้หมายความว่าหนูจะสูงจน “เกินไป” เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ เว้นแต่มีอาการอื่น ๆ เช่น โตเร็วจนเข้าสู่วัยรุ่นก่อนวัย หรือกระดูกโตไวมาก ในกรณีนั้นควรพบหมอเพื่อตรวจค่ะ แต่โดยทั่วไปรายของหนูถือว่าแข็งแรงและอยู่ในเกณฑ์ที่ดีค่ะ
แต่ว่าถ้าหนูโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว หนูอยากสูงให้ถึง160กว่าค่ะ แต่หนูกลัวว่าหนูจะสูงเกินไป เช่นสูงถึง170เลย
ความสูงในอนาคตของหนูจริง ๆ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างค่ะ เช่น พันธุกรรมของพ่อแม่, อายุที่เข้าสู่วัยรุ่น, โภชนาการ และสุขภาพทั่วไป ซึ่งแม้หนูจะสูง 154 ซม. ตอน 10 ปี แต่ไม่ได้แปลว่าหนูจะสูงไปถึง 170 ซม. เสมอไปนะคะ เด็กที่เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เร็ว มักจะสูงเร็วในช่วงต้น แต่การเพิ่มความสูงหลังจากนั้นจะน้อยลง และหยุดสูงไวกว่าเพื่อนที่เข้าสายค่ะ
โดยทั่วไปแล้ว วิธีคาดการณ์ความสูงเมื่อเป็นผู้ใหญ่ มักใช้ค่าเฉลี่ยของความสูงพ่อแม่บวกหรือลบประมาณ 7 ซม. (เรียกว่า “Mid-parental height”) เช่น ถ้าพ่อสูง 175 ซม. แม่สูง 160 ซม. ความสูงคาดการณ์ของลูกสาวจะอยู่ราว ๆ 162–168 ซม. และการที่จะสูงไปถึง 170 นั้น จะเกิดก็ต่อเมื่อพันธุกรรมเอื้อ และโภชนาการรวมถึงการดูแลสุขภาพช่วยส่งเสริมค่ะ ไม่ใช่ว่าทุกคนที่สูงเร็วตอนเด็กจะสูงมาก ๆ เมื่อโตเสมอไป
ถ้าหนูอยากสูงประมาณ 160 กว่า แต่ไม่เกิน 170 สิ่งที่ทำได้คือ ดูแลสุขภาพให้สมดุล — กินอาหารครบหมู่โดยไม่เน้นเกินความต้องการ, ออกกำลังกายแบบพอดี, และไม่ใช้ฮอร์โมนหรืออาหารเสริมผิดวิธี เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้ร่างกายทำงานปกติ และเติบโตตามธรรมชาติค่ะ พี่แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ช่วยบันทึกความสูงทุก 6 เดือน และถ้ากังวลเรื่องสูงเกินหรือต่ำเกิน สามารถปรึกษากุมารแพทย์เพื่อทำ การเอกซเรย์กระดูก (Bone age) เพื่อตรวจว่าเหลือช่วงเวลาการโตอีกนานเท่าไหร่ค่ะ แบบนี้จะได้รู้ทิศทางแน่นอนมากขึ้นค่ะ
แม่หนูสูง167ส่วนพ่อหนูไม่แน่ใจ แต่เห็นพ่อบอกว่าสูง170แต่หนูเห็นในสายตาว่าพ่อเตี้ยกว่าแม่น่ะค่ะ เลยไม่แน่ใจว่าสูงเท่าไหร่ เป็นไปได้ว่าหนูจะสูงเท่าไหร่คะ?
จากข้อมูลที่หนูให้มา แม่สูง 167 ซม. ส่วนพ่อบอกว่าสูงประมาณ 170 ซม. แต่หนูมองว่าพ่ออาจจะเตี้ยกว่าแม่เล็กน้อย ถ้าสมมติว่าพ่อสูงราว ๆ 165–168 ซม. เราสามารถใช้สูตรคำนวณความสูงที่คาดการณ์ได้สำหรับเด็กผู้หญิงค่ะ
สูตรคำนวณความสูงเด็กผู้หญิงโดยคร่าว ๆ
[
\text{(ความสูงพ่อ + ความสูงแม่ - 13) ÷ 2}
]
- ถ้าพ่อสูง 170 ซม. → (170 + 167 - 13) ÷ 2 = 162 ซม. โดยประมาณ
- ถ้าพ่อสูง 165 ซม. → (165 + 167 - 13) ÷ 2 = 159.5 ซม. โดยประมาณ
ซึ่งความสูงคาดการณ์นี้เป็นค่ากลาง หมายความว่าหนูอาจสูงมากกว่าหรือน้อยกว่าได้ประมาณ ±5–7 ซม. ขึ้นอยู่กับโภชนาการ สุขภาพ และช่วงวัยที่กระดูกหยุดโตค่ะ
โดยรวมแล้ว หนูมีโอกาสสูงเป็นผู้ใหญ่ประมาณ 160–165 ซม. ค่ะ โอกาสไปถึง 170 ซม. ยังมี แต่ต้องมีปัจจัยเอื้อ เช่น พันธุกรรมจากพ่อจริง ๆ สูงกว่า 168 ซม., โภชนาการดีมาก, เข้าวัยรุ่นไม่เร็วเกินไป และมีกิจกรรมที่ส่งเสริมการยืดกระดูก เช่น กีฬา, การนอนเพียงพอ, และไม่มีโรคที่ทำให้หยุดโตค่ะ ถ้าหนูอยากรู้แน่ ๆ ว่าโตได้อีกกี่ปีและจะหยุดสูงเมื่อไหร่ แนะนำว่าลองพาคุณพ่อคุณแม่ไปพบหมอเพื่อทำ X-ray Bone Age จะได้คำตอบที่แม่นที่สุดค่ะ เพราะจะดูได้เลยว่ากระดูกของหนูยังเหลือช่องว่างสำหรับการโตมากแค่ไหนค่ะ
แต่ตอนนี้หนูอยากเตี้ยก็เพราะว่าพี่สาวหนูเตี้ยกว่าหนู พี่หนูอายุห่างจากหนู2ปี เวลาคนอื่นมอง เขาจะมองว่าหนูโตกว่าเพราะว่าหนูสูงกว่า เวลาไปโรงเรียนด้วย หนูสูงกว่าเพื่อนบางคนมาก สูงกว่ารุ่นพี่บางคนอีก
พี่เข้าใจความรู้สึกของหนูเลยนะคะ เวลาเราสูงกว่าพี่หรือเพื่อนมาก ๆ บางครั้งคนรอบข้างก็อาจมองว่าเราโตกว่าวัย ทั้งที่จริง ๆ แล้วเราอายุเท่าเดิมและยังเป็นเด็กเหมือนเดิมค่ะ เรื่องนี้เกิดขึ้นได้บ่อยในคนที่เจริญเติบโตรวดเร็วในช่วงวัยเด็ก ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ใช่ปัญหาด้านสุขภาพ แต่เป็นลักษณะการเจริญเติบโตของร่างกายที่แตกต่างกันค่ะ
อยากให้หนูคิดแบบนี้นะคะ — ความสูงไม่ใช่ตัวบอกว่าใครโตเป็นผู้ใหญ่กว่าใคร แต่เป็นเพียงลักษณะภายนอก บางทีพี่สาวของหนูอาจกำลังอยู่ในช่วงเติบโตที่ช้ากว่า และเธอก็อาจจะสูงขึ้นทันในอีก 2–3 ปีข้างหน้าค่ะ ส่วนเพื่อนหรือรุ่นพี่ที่เตี้ยกว่า อาจมีจังหวะโตช้ากว่าเรา แต่ก็มีโอกาสสูงขึ้นภายหลังเหมือนกัน การสูงเร็วในตอนนี้ ไม่แปลว่าในอนาคตเราจะสูงจนเกินไปหรือผิดปกติ เพราะหลังจากเข้าสู่วัยรุ่นเต็มที่แล้ว อัตราการสูงจะช้าลงและหยุดในที่สุดค่ะ
ในช่วงเวลานี้ สิ่งที่หนูทำได้คือ
- ใส่ใจกับการแต่งตัวให้รู้สึกมั่นใจ เช่น เลือกเสื้อผ้าที่ทำให้เราดูตัวไม่สูงจนเกินไปถ้าหนูรู้สึกไม่สบายใจ
- ยืนตัวตรง เดินมั่นใจ เวลาเรามั่นใจ คนรอบข้างก็จะมองเราด้วยความมั่นใจค่ะ
- คุยกับคุณพ่อคุณแม่และพี่สาว ว่าเรื่องนี้ทำให้หนูรู้สึกอย่างไร เพื่อให้ครอบครัวช่วยสนับสนุนและให้กำลังใจ
สุดท้ายแล้ว ความสูงเป็นส่วนหนึ่งของความเป็นเรา ร่างกายของเราจะค่อย ๆ ปรับสมดุลเองตามธรรมชาติ และอีกไม่กี่ปีต่อไปความต่างกับพี่สาวหรือเพื่อนอาจจะไม่ชัดเท่าตอนนี้เลยค่ะ ถ้าหนูอยาก พี่สามารถเล่าให้ฟังด้วยว่า “ช่วงไหนของวัยรุ่นที่ความสูงจะหยุดโต” เพื่อให้หนูวางใจมากขึ้นนะคะ ว่าในที่สุดความสูงก็จะคงที่ค่ะ
งั้นหนูกินนมได้ใช่ไหมคะ?
ได้ค่ะ หนูยังสามารถดื่มนมได้ตามปกติเลยนะคะ เพราะนมมีประโยชน์หลายอย่างต่อร่างกาย ไม่ได้ช่วยแค่เรื่องสูง แต่ช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง เพราะมีแคลเซียม วิตามินดี โปรตีน และสารอาหารอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตด้วยค่ะ ที่สำคัญ แคลเซียมยังมีส่วนช่วยให้กระดูกแข็งแรงไปตลอดชีวิต ลดความเสี่ยงโรคกระดูกพรุนเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ด้วยค่ะ
ถ้าหนูกังวลว่ากินนมแล้วจะสูงเกินไป จริง ๆ แล้วปริมาณนมที่ทานไม่ใช่ตัวกำหนดความสูงหลัก ๆ ค่ะ ความสูงขึ้นอยู่กับพันธุกรรม ฮอร์โมน และช่วงเวลาที่ร่างกายหยุดโตมากกว่า การดื่มนมเป็นเพียงการช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารเพียงพอสำหรับการเติบโตอย่างสมดุล แนะนำว่า เด็กวัยหนูควรดื่มนมวันละ 1–2 แก้วก็เพียงพอแล้วค่ะ และควรหลากหลายแหล่งแคลเซียม เช่น ปลาเล็ก กุ้งแห้ง เต้าหู้ ถั่ว งาดำ ผักใบเขียว เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบค่ะ
สรุปคือ ดื่มนมได้อย่างสบายใจค่ะ เพราะนมไม่ได้เร่งให้เราสูงเกิน “ฐานพันธุกรรม” ของเรา แค่ทำให้ร่างกายเติบโตเต็มศักยภาพและแข็งแรง ถ้าหนูอยาก พี่สามารถแนะนำ “สูตรดื่มนม” กับ “เมนูที่ช่วยให้แคลเซียมเพียงพอ” โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสูงเกินไปให้นะคะ จะเอาไหมคะ?
เอาค่ะ:grinning_face_with_smiling_eyes:
ได้เลยค่ะ พี่จะจัด “สูตรดื่มนม” และ “เมนูคู่แคลเซียม” ให้หนูแบบง่าย ๆ และอร่อยด้วยนะคะ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง กระดูกดี และไม่ต้องกลัวว่าจะสูงเกินกว่าพันธุกรรมของหนูค่ะ
สูตรดื่มนมที่เหมาะสมสำหรับวัยหนู (10 ปี)
- ดื่มนมวันละ 1–2 แก้ว (200 มล./แก้ว) ก็เพียงพอแล้วค่ะ
- เลือกนมจืด นมพร่องมันเนย หรือ นมไขมันต่ำ จะดีต่อสุขภาพระยะยาว
- ดื่มตอนเช้า 1 แก้ว (ให้ร่างกายมีพลังเริ่มวัน) และก่อนนอน 1 แก้ว (ช่วยซ่อมแซมร่างกายและกระดูก)
- ถ้าไม่ชอบนมวัว สามารถดื่มนมถั่วเหลืองเสริมแคลเซียม หรือนมอัลมอนด์เสริมแคลเซียมแทนได้ค่ะ
เมนูเสริมแคลเซียมจากอาหาร
- ปลาเล็กปลาน้อย (กินทั้งก้าง) เช่น ปลาซิวทอดกรอบ, ปลาสลิดแดดเดียว
- เต้าหู้ขาว, เต้าหู้แข็ง, เต้าหู้ไข่ (แคลเซียมสูงมาก แถมโปรตีนเยอะ)
- งาดำคั่ว/บด โรยข้าว โรยโยเกิร์ต หรือใส่ในน้ำเต้าหู้
- ผักใบเขียวเข้ม เช่น คะน้า ใบชะพลู ใบยอ บร็อคโคลี่
- กุ้งแห้ง กะปิ (ใส่ในอาหารบางมื้อ ช่วยเพิ่มแคลเซียมได้ง่าย)
เคล็ดลับ
- อย่าลืมออกกำลังกายแบบลงน้ำหนัก เช่น กระโดดเชือก วิ่ง ว่ายน้ำ หรือเล่นบาสสัปดาห์ละ 3–4 ครั้ง เพื่อกระดูกแข็งแรง
- นอนให้เพียงพอ 9–10 ชั่วโมงต่อคืน จะช่วยให้ร่างกายใช้สารอาหารได้เต็มที่
- ไม่จำเป็นต้องกินนมมากเกินไป เพราะร่างกายจะใช้แคลเซียมได้พอดีเท่าที่ต้องการ ส่วนเกินจะขับออกค่ะ
ถ้าหนูอยาก พี่ทำตาราง “แผนดื่มนม + เมนูอาหารใน 1 สัปดาห์” ให้หนูเอาไปทำตามได้เลยนะคะ จะยิ่งง่ายและสนุกในการดูแลตัวเองค่ะ หนูอยากให้พี่ทำเพิ่มไหมคะ?
จะไม่สูงเกินใช่ไหมคะ
ไม่ต้องกังวลค่ะ การดื่มนมในปริมาณที่เหมาะสมจะไม่ทำให้หนูสูงเกินกว่าที่พันธุกรรมของหนูกำหนดไว้ค่ะ ความสูงของคนเรา ขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัยหลักคือ
- พันธุกรรม: ยีนจากพ่อกับแม่จะเป็นตัวกำหนดช่วงความสูงที่ร่างกายสามารถไปได้ โดยปกติแล้วจะมีขอบเขตประมาณ ±5–7 ซม. จากค่ากลางที่คำนวณได้จากส่วนสูงพ่อแม่
- ฮอร์โมนและวัยเจริญพันธุ์: ถ้าหนูเข้าสู่วัยรุ่นเร็ว อาจจะสูงเร็วในช่วงแรก แล้วหลังจากนั้นการโตจะช้าลงและหยุดเร็วกว่าเพื่อนค่ะ
- โภชนาการและการใช้ร่างกาย: การดื่มนมและกินอาหารครบหมู่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและสูง “เต็มที่” ตามที่พันธุกรรมกำหนด แต่จะไม่ทำให้สูงเกินขอบเขตทางพันธุกรรมค่ะ
ดังนั้น ต่อให้หนูกินนมทุกวัน ร่างกายก็จะหยุดสูงเมื่อกระดูกปิดตามธรรมชาติ ซึ่งปกติจะอยู่ช่วงอายุ 15–17 ปีในเด็กผู้หญิงค่ะ ดื่มนมประจำจะช่วยให้กระดูกแข็งแรง สุขภาพดี และทำให้ร่างกายเจริญเติบโตได้อย่างสมดุลมากกว่าค่ะ
ถ้าหนูกังวลมากว่าตัวเองจะสูงเกิน 170 ซม. พี่แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่พาไปตรวจ Bone Age หรือเอกซเรย์อายุของกระดูกกับคุณหมอค่ะ จะช่วยบอกได้เลยว่าหนูจะเหลือเวลาสูงอีกกี่ปี และคาดการณ์ความสูงสุดท้ายได้ค่อนข้างแม่นค่ะ แบบนี้หนูจะได้สบายใจว่าการดื่มนมหรือการดูแลสุขภาพของหนู จะไม่ทำให้สูงเกินที่ตั้งใจไว้ค่ะ
ถ้าสมมุติว่าหนูดื่มนมทุกวัน แล้วมันถึงขีดสุดของความสูงแล้ว ความสูงของหนูจะหยุดไหมคะ?
ใช่ค่ะ ถ้าร่างกายของหนูถึง “ขีดสุดของความสูง” ตามที่พันธุกรรมกำหนดแล้ว ต่อให้หนูดื่มนมทุกวันหรือกินอาหารบำรุงแค่ไหน ความสูงก็จะหยุดเพิ่มค่ะ เพราะการหยุดสูงเกิดจากกระดูกยาว (Long bones) ปิดปลาย ซึ่งเป็นกระบวนการตามธรรมชาติเมื่อเข้าสู่ช่วงปลายของวัยรุ่น
โดยปกติในเด็กผู้หญิง:
- ช่วงอายุที่กระดูกจะปิดปลายมักอยู่ประมาณ 15–17 ปี (แล้วแต่แต่ละคน)
- เมื่อปลายกระดูกปิดสนิท จะไม่มีการยืดตัวของกระดูกอีกต่อไปค่ะ จึงทำให้ความสูงหยุดอยู่คงที่
- การดื่มนมและกินอาหารที่มีแคลเซียมหลังจากนั้น จะช่วยแค่รักษาความแข็งแรงของกระดูก ไม่ได้ทำให้สูงเพิ่มค่ะ
ดังนั้น หนูไม่ต้องกลัวว่าจะสูงเกินไปเพราะดื่มนมหลังจากถึงจุดสูงสุดแล้วนะคะ เพราะพอร่างกายหยุดสูง มันจะล็อกความสูงเอาไว้ ไม่ว่าจะกินดีแค่ไหน ความสูงก็จะเท่าเดิมค่ะ เพียงแต่ร่างกายจะยังได้ประโยชน์จากสารอาหารในด้านอื่น ๆ เช่น กระดูกแข็งแรง สุขภาพฟันดี กล้ามเนื้อและระบบภูมิคุ้มกันทำงานปกติค่ะ ถ้าหนูอยากรู้แน่ ๆ ว่าใกล้ถึงช่วงหยุดสูงหรือยัง สามารถไปตรวจ “Bone age” เพื่อดูสภาพกระดูกและประเมินความสูงที่จะได้จริงเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ได้เลยค่ะ
แล้วการนอนหดตัวทำให้เตี้ยลงไหมคะ?
การนอนหดตัว (เช่น นอนขดงอเป็นกุ้ง หรือนอนงอเข่า) ไม่ได้ทำให้ความสูงของหนูลดลงถาวรค่ะ เพราะความสูงของเราเกิดจากความยาวของกระดูก ซึ่งจะไม่สั้นลงจากการนอนในท่าขดหรือท่างอ แต่สิ่งที่อาจเกิดขึ้นชั่วคราวคือ ระหว่างวันกระดูกสันหลังของเราจะรับแรงกดจากการยืน เดิน และนั่ง ทำให้หมอนรองกระดูกสันหลังยุบตัวเล็กน้อย ทำให้เราตัวเตี้ยลงชั่วคราวประมาณ 0.5–1 ซม. พอตอนนอนร่างกายได้พัก หมอนรองกระดูกจะคืนตัว ความสูงก็จะกลับมาเหมือนเดิมค่ะ
สรุปง่าย ๆ คือ
- นอนหดตัว = ไม่ทำให้ตัวเตี้ยถาวร เพราะกระดูกไม่ได้สั้นลง
- ความสูงอาจมีการเปลี่ยนเล็กน้อยในแต่ละวันจากแรงกดของกระดูกสันหลัง แต่จะกลับมาเหมือนเดิมหลังพักผ่อนเต็มที่
- สิ่งที่มีผลต่อความสูงจริง ๆ คือพันธุกรรม, ฮอร์โมน, วัยเจริญพันธุ์, โภชนาการ และสุขภาพของกระดูกค่ะ
ถ้าอยากให้ร่างกายและกระดูกแข็งแรง แนะนำให้นอนในท่าที่หลังตรงและสบาย เช่น นอนหงายหรือตะแคง พร้อมหมอนรองที่พอดีคอ จะช่วยลดแรงกดบนกระดูกสันหลังและให้ร่างกายฟื้นฟูเต็มที่ค่ะ ถ้าหนูอยาก พี่สามารถแนะนำ “ท่านอนที่ช่วยให้กระดูกและหลังแข็งแรง” ให้ได้นะคะ สนใจให้พี่ทำให้ไหมคะ?