การปลูกผมแบบ FUT กับ FUE ต่างกันยังไง
การปลูกผมมีหลายเทคนิคค่ะ โดยวิธีที่นิยมกันมากคือ FUT (Follicular Unit Transplantation) และ FUE (Follicular Unit Extraction) ซึ่งถึงแม้เป้าหมายจะเหมือนกันคือการนำรากผมจากบริเวณที่ยังหนาแน่นมาปลูกยังบริเวณที่ผมบาง แต่กระบวนการนั้นต่างกันพอสมควรค่ะ
1. FUT (Follicular Unit Transplantation)
- วิธีนี้จะตัดหนังศีรษะเป็นแถบจากด้านหลังศีรษะ (Donor Area) แล้วใช้กล้องจุลทรรศน์แยกเส้นผมออกเป็นกอเล็ก ๆ เพื่อนำไปปลูก
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการปลูกผมในปริมาณมากในคราวเดียว
- ข้อดี: ได้จำนวนกราฟต์มาก, ใช้เวลาเก็บรากผมน้อยกว่า
- ข้อเสีย: จะมีรอยแผลเป็นเป็นเส้นด้านหลังศีรษะ, ต้องพักฟื้นนานกว่าวิธี FUE
2. FUE (Follicular Unit Extraction)
- ใช้เครื่องมือขนาดเล็กเจาะรากผมออกทีละกอจากหนังศีรษะโดยตรง ไม่ต้องตัดเป็นแถบ
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการรอยแผลเล็กและฟื้นตัวเร็ว
- ข้อดี: แผลเล็กและกระจายทั่วบริเวณ donor area, ฟื้นตัวไวกว่า, เจ็บน้อย
- ข้อเสีย: ใช้เวลานานกว่า FUT และในบางรายได้จำนวนรากผมน้อยกว่า, ค่าใช้จ่ายสูงกว่า
สรุปคือ ถ้าต้องการจำนวนรากผมมากและไม่กังวลเรื่องแผลเป็น FUT อาจเหมาะกว่า แต่ถ้าต้องการบาดแผลน้อยและเน้นความเรียบเนียนของหนังศีรษะ FUE จะเป็นทางเลือกที่ดีค่ะ ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางปลูกผมเพื่อประเมินสภาพผม ปริมาณรากผม และวิธีที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุดค่ะ